บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555

พูดถึง งาน ซามูไร คลาสสิค เดย์ ครั้งที่3 21-01-2555




 
 
พูดถึง งาน ซามูไร เป็นครั้งที่2 ที่ได้ไป (ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่3)

โดยรวมบรรยากาศ ยังคงเหมือนเมื่อครั้งแรก แต่ ปีนี้ รถ สวยๆ เดิมๆ น้อยกว่าปีก่อน (อาจจะเพราะว่า มีหลายงานจัดพร้อมๆกัน)

ภาพรวมของงาน ยังไม่เป็นระเบียบ เรียบร้อย ดุวุ่นๆไปสักหน่อย ตั้งแต่ สต๊าฟ ยันที่จอดรถ แต่อันนั้นไม่ขอพูดถึง

ขอพูดในส่วนที่ผมถนัดและต้องการกับงานรถ ดีกว่า

นั่นคือการให้ความสำคัญกับการประกวด และโชว์รถ งานนี้ ยังคง เหมือนเดิม ที่ยังให้ความสำคัญและ ดูจริงจัง กับการประกวดรถ กรรมการทุกคนตั้งใจ เต็มที่ รถบางคันที่มาวันนี้ เล่นเอาตัดสินใจ ลำบากเลยก้อมี แต่ ด้วยความที่ รถแปลกๆเจ๋งๆ ที่เคยเห็นในงานนี้ มากันไม่เยอะ เลยดู ไม่ แน่น เท่าไหร่

แต่มีรถโดนตา อยู่หลายคัน

ขอติแบบแรงๆ ตอน ที่กรรมการ ตัดสินเสร็จแล้ว ผู้จัด ปล่อยให้ เจ้าของรถมาเอารถออก ทันที ดูไม่เป็นระเบียบและดุวุ่นวาย มั่วซั่วมากๆ

งานนี้โดยรวม ดู แบบ สบายๆ ไม่เน้นหนัก ไปทางคอนเสริ์ต เท่าไหร่ ถึงแม้จะมีวงเทอร์โบ จ๊ะ คันหู ก้อตาม ^^

ผู้ร่วมงาน เยอะมากอยู่ เด็กๆน้องๆ สไตล์ คลาสสิค แว๊นซ์ ยังคงมากันอย่างคับคั่ง เช่นเดิม

 
 
 
คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ดูจากรูปเอาเองครับ ผมเก็บมาเฉพาะรถที่ผม ถูกใจ ครับ ภาพบรรยากาศโดยรวมเลยไม่ได้เก็บเพราะไปถึงก้อเย็นแล้ว (มัวแต่นั่งโม้ บ้านพี่สมชายอยู่)

ขอบคุณ ผู้จัดงาน และทีมสต๊าฟครับ ให้เกียรติและดูแลกันอย่างดี สำหรับ สื่อกลางอย่างผม


ทุกข้อความเขียนมาจาก ความเป็นจริง ไม่ได้มาจากความรู้สึกส่วนตัวเท่าไหร่นัก หวังว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานนี้ จะเข้าใจ ในสิ่งที่เราเขียนครับ ติเพื่อก่อ ไม่ได้ยอ เพื่อทำลายครับ

ตั้ม - Motor Classic Shops

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

Honda CS92 Benly

ข้อแตกต่าง ระหว่าง C92 และ CS92 // รายละเอียด วิธีการดู รถCS92

 




ข้อแตกต่าง ระหว่าง C92 และ CS92 // รายละเอียด วิธีการดู รถCS92 ทั้ง3 Type

- คันเบรค

- ฝากระเป๋า แยกบน-ล่าง
- ท่อยก
- ขาตั้งคู่
- คันสตาร์ท
- ตัวรองขาตั้งเดี่ยว

- ฝาปิดเสตอหน้า มี2แบบ แบบมีรู และ แบบเรียบ
- เบาะยาว และ เหล็กยึดเบาะหลัง
- เหล็กพักเท้าหน้า
- เลขเครื่อง-เลขโครง




ลูกยางรองขาตั้งเดี่ยว ในC92 จะไม่มี



น็อตฝากระเป๋า แบบเฉียง พร้อมตัวรับน็อต ด้านใน และ กระเป๋าเหล็กด้านล่างแยกกันได้


คันสตาร์ท จะคนละทรงกับ C92-95




ฝาปิดเสตอหน้า แบบมีรูใส่ยางปิดช่องคลัทช์ และ แบบเรียบสนิท




คอท่อ และ ท่อ แบบยก ขึ้น


ไฟเลี้ยว Handle Bar แบบฟิวส์

ไฟเลี้ยว แบบ Low Bar



คอท่อ ข้างขวาแบบยก





ทั้งหมดนี้ เป็นองค์ประกอบ โดยรวม ของ CS92 ที่ ไม่เหมือนกันกับ C92 C95

แต่ เรื่อง อะไหล่ ภายนอก คงไม่เน้นเท่าไหร่ เพราะ สามารถ ซื้อ อะไหล่ CS92 เซียงกงที่แยกขาย มาใส่ ก้อจบ แต่ วันนี้ จัดหนักกันที่รายละเอียด เลขเครื่อง เลขโครง ดีกว่า เพราะมันจะทำให้ แยกแยะ ได้ชัดเจนเลย ว่าใช่ หรือไม่




รถ Honda CS92 เนี่ย เลขเครื่อง จะเป็นแบบ 9หางงอ นะครับ และมี3มาร์ค ด้วยกัน  แบ่งเป็น เก่า กลาง ใหม่ ได้เลยครับ

วิธีดูว่า รถ คุณเป็นCS92 แท้มั๊ย จากเลขเครื่องและโครงนะครับ ให้สังเกตุ ดูว่า เครื่องและโครงคุณ 2ตัวหน้า ที่ต่อ จาก C92E-....... เป็นเลขดังต่อไปนี้มั๊ยนะครับ


- 27/28/29
- 37/38/39
- 40/50


ถ้าใช่ นั่นหมายความว่า ตัวเครื่อง และ ตัวโครงคุณเป็น CS92 ครับ


คราวนี้ มาดูกันว่าเลขแต่ละเลข บอกถึงรถ ปีไหนกันบ้าง

- ถ้ารถ คุณขึ้นด้วยเลข 27/28/29 นั่นหมายความว่า รถคุณถูกผลิตมาช่วงปลายปี 1957-1959  เป็น Benly Dream CS92 ตัวแรก ที่เป็น เบนลี่ กระปุกไมล์ แบบเขี้ยว และ คอยส์หัวเทียนใช้ปลั๊กต่อ ที่ข้างฝาสูบ  และกลางเครื่องเป็นแบบกระดิ่งขึ้นมา คาร์บูแบบจานบิน  ไมล์หน้าขาว เข็มดำ และรายละเอียดอื่นๆที่แตกต่างอีกนิดหน่อย

- ถ้ารถ คุณขึ้นด้วยเลข 37/38/39 นั่นหมายถึง รถคุณถูกผลิตในช่วงปี1960-1962 มีทั้งแฮนด์เบนลี่ ที่เรียกว่า Low Bar และ เบนลี่แฮนด์ยก หรือ Handle Bar ไฟเลี้ยวแบบฟิวส์อยู่ ถังน้ำมัน จะเป็น แบบเบนลี่ มียางข้างถัง คิ้วไฟเลี้ยวหลังแยก (ตามรูป จะเป็น มาร์ค2 ทั้งคู่)

- ถ้ารถ คุณขึ้นด้วย เลข 40/50 นั่นหมายถึง รถคุณ ถูกผลิต ในช่วงปี 1963-1965 มีหน้าตา เหมือนรถ C92 ทุกอย่าง แต่ท่อยก ฝากระเป๋าแยกอยู่ แต่ถังน้ำมัน จะเป็นแบบ C92 ธรรมดา แฮนด์แบบธรรมดา คิ้วไฟท้ายแบบC92 ทุกอย่าง ตัวนี้ จะเป็นปีสุดท้าย ใหม่กว่า 2รุ่นแรก


แต่ ถ้า เลขรถ คุณนอกเหนือจากนี้ รถคุณจะเป็น Benly หรือ C92-95 ธรรมดา อยู่ที่ เลขเครื่องครับ  แต่ไม่ใช่ CS92 แน่นอนครับ

อ่อ สุดท้ายนะครับ รถCS92 เลขเครื่องและโครง ไม่ได้ ตอกว่า CS92E นะครับ ไม่มีครับ อย่าเข้าใจกันผิดไปครับ




ตั้ม - Motor Classic Shops

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

พูดถึง งาน No Limit เพชรบุรี 14/01/2012

พูดถึง งาน No Limit ที่ได้มีโอกาสไป มาวันนี้นะครับ

ขอพูดถึงงานนี้ จากใจ ผู้ชายตัวเล็กๆคนนี้เลยนะครับ ว่า......

ก่อนอื่น ต้องขอ ชื่นชมก่อนเลย เรื่อง ทีมStaff เยอะมากๆ เท่าที่ได้ยิน พิธีกร พูด ว่า 180กว่าคน  ยอมรับครับ ว่า เคยไปงานอื่นๆมา ยังไม่เคยเห็น งานไหน Staff เดินกันเกริ่นไปหมด จริงๆ

และที่ต้อง เอ่ยคำชม อีกอย่างคือ ความเป็นระเบียบ และ การวางแผนงาน ของทีม Staff ครับ ขยัน ขันแข็ง กันทุกคนจริงๆ เคร่งครัดมากๆ กับระเบียบ (โดนมากับตัว)

ส่วนตัวงานและภาพรวม ถือว่า โอเคอยู่แล้วครับ งานใหญ่ คนมาร่วมงานเยอะมาก สามารถ คอนโทรล สมาชิก กลุ่มต่างๆให้อยู่ในกรอบ ได้ ในช่วงบ่าย-เย็น (เพราะไม่ได้อยู่ถึงดึกเลยไม่รู้)  ในส่วนของงาน ยังคงเป็นไปในรูปแบบ ทั่วไป เหมือนเดิม

มีคอนเสริ์ต มีของแจก มีอาหารขาย มีจัดบู๊ธ มีประกวดรถ ทุกอย่าง เหมือนงานอื่นๆทั่วไป ไม่มีอะไรแตกต่าง

งานนี้ ต้องขอบอกเลยว่า เหมาะมากๆ สำหรับ น้องๆที่ชอบออกทริป ขี่รถ รักสนุก เจอเพื่อน ได้สังสรรค์  ชอบที่จะรู้จักการใช้ชีวิต ร่วมกับคนหมู่มาก เหมาะมากๆ ครับ

ดูสนุกดี มีสีสรรค์ มีความสามัคคี ให้เห็น แต่ งานนี้ ไม่เหมาะ กับ คนที่ ต้องการ ไปดูรถหายาก  ไปหาความรู้จาก รถคลาสสิค รุ่นเก่าๆ ไปเก็บภาพรถแท้ๆ เดิมๆ หายากๆ หรือรถแปลก ๆ ที่มีคุณค่า  หรือไม่เหมาะกับผู้ที่จะ ไปหาข้อมูล เกี่ยวกับรถในแต่ ละรุ่น ในแบบของคนสะสมรถเดิม อย่าหวังกับงานนี้ครับ

ต้องบอกได้เลยว่า ตลอดทางที่ขับไปงาน จนเข้างาน เห็นรถหน้างาน ในงาน และ กลับออกมานอกงาน ได้สวนกับรถที่กำลังไปร่วมงานช่วงค่ำ เจอแต่ รถแต่ง จะเรียกยังงัยดี ขอเรียกเป็นแนวแฟนตาซี ละกันนะครับ เจอรถแปลง คิดเป็น ร้อยละ 95เปอร์เซ็นต์ครับ

รถเดิมๆ แทบไม่ต้องหาครับ หายากมากๆ เดินอยู่ในงาน กว่า4ชั่วโมง เห็นไม่ถึงสิบคัน

ในส่วนของการประกวด ยังเหมือนเดิม ครับ ไม่มการเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ว่าจะดีขึ้น ยังคงยึดแบบแผนเก่าๆ อยู่

และที่สำคัญ ในงานนี้ รถที่เข้าร่วมประกวดรถ ไม่หลากหลาย และมีไม่มาก ส่วนใหญ่เห็นแล้ว ก้องั้นๆ ที่เข้าตา ก้อคือรถที่แทบจะเรียกว่าเดินสายประกวดอยู่แล้ว

รถที่มีมาเข้าประกวดและโชว์ในส่วนการจัดประกวด ไม่มีรถหายาก ไม่มีรถยี่ห้ออื่นๆให้ดูมากนัก ยามาฮ่าก้อมี ธรรมดาทั่วไป YL2 YG1 U5 แบบไม่ครบๆ Suzuki มี K125 เข้ามานึงคัน กับ A100 สภาพสุดตีน (กล้าเอาเข้าประกวดได้งัย) รุ่นหายากๆ ไม่มี ถึงจะเป็นรถอื่นๆ ก้อต้องบอกเลยว่า เป็นรถที่หาดูได้ทั่วไป ตามถนน ครับ (ไม่พูดถึงรถแปลงๆนะครับ)

ต่างกับงานอื่นๆที่เคยไปมา มีรถหลากหลายรุ่นกว่านี้เยอะมาก รถหายากเยอะกว่า

ผมเลยคิดว่า ทำให้ กรรมการที่มี ไม่ได้โชว์ฝีมือในการตัดสินครับ แต่ เห็นหน้าค่าตา กรรมการ วันนี้ กับรถที่เข้าประกวด ก้อเหมาะสมกันดีครับ เพราะถ้าเจอรถปีลึก กว่านี้ คงจะทำให้กรรมการ ลำบากแน่นอนครับ

สรุปงานนี้นะครับ ดูแล้ว จุดไฮไลท์ ของงาน ยังคงเป็นคอนเสริ์ต จากพี่เสือ ธนพล ครับ ส่วนการประกวดรถ เป็นแค่องค์ประกอบ รถเข้าประกวดน้อยมาก ที่ผมคิดไปเอง และเข้าใจไปเองว่า

บางทีรถที่เอาเข้าประกวดนั้น เค๊าอาจจะไม่อยากได้รางวัลอะไรหรอก แค่ ยอมเสีย50บาท เพื่อเข้าไปจอดรถ ในที่มีเชือกกั้น ปลอดภัยเท่านั้นครับ

เป็นงานแรก ที่ ผมดูรถ ที่เข้าประกวดจากด้านนอกแล้ว ไม่อยากดิ้นรน เดินเข้าไปดูใกล้ๆครับ

แต่ ภาพรวม ของงาน ต้องยอมรับ ว่า เจ๋งครับ ในเรื่องของ Power ในเรื่องของระบบ ดีมากๆ ต้องชื่นชมครับ มีการแบ่งการทำงาน แต่ละหน้าที่ชัดเจน งานดูยิ่งใหญ่ มาก บวกกับ วิวสวยๆ บรรยากาศ ดีๆ สุดยอดครับ ชอบมากๆ ถ้าเว้นเรื่องรถแท้ รถเดิม และ ความต้องการหาความรู้เรื่องรถจากที่นี่ไป  ทุกอย่างลงตัว และโอเค มากๆครับ

สุดท้ายนี้ ต้องกราบขออภัย หาก  มีข้อความ หรือประโยคใดๆ ที่ทำให้ ไม่เป็นที่พอใจ หรือ ไม่ถูกใจ เพื่อนๆ ต้องขอโทษเป็นอย่างสูง นะครับ เราแค่ เล่าสู่กันฟังตามจริง ในสิ่งที่ได้ไปเห็นมาครับ ติเพื่อก่อ ดีกว่ายอเพื่อทำลายครับ

ขอบคุณพี่ๆน้องๆ สมาชิก No limit ที่จำกันได้ และเข้ามาทักทายนะครับ ขอบคุณที่ให้เกียรติ มากๆเลยครับ ขอให้จัดงานดีๆอย่างนี้ ไปอีกเรื่อยๆเลยครับ


ตั้ม - Motor Classic Shops

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

มุมมองของ Motor Classic Shops กับ การเล่นรถ ของนักเล่นรถเก่า บ้านเรา

     จากประสบการ์ณของผม ที่ผ่านการเล่นรถเก่ามานาน (แอบคิดว่านานไปเองรึป่าวเนี่ย) ผมได้เห็น ได้เจอ ได้พบ ได้รู้จัก คนเล่น มากมาย ผ่านเข้า ได้มีโอกาสขายของให้เขาเหล่านั้น จน บางคน พัฒนา จากคนเล่น คนซื้อ คนเก็บ จนมาเป็นคนปล่อย คนขาย   บางคน มีชื่อเสียง รู้จักในกลุ่มต่างๆ บางคนเป็นรุ่นพี่ รุ่นใหญ่  ในวงการ มีคนนับหน้าถือตา กว้างขวาง

     ผมได้มีโอกาสเห็น มามากมาย และก้อเชื่อว่า ในหลายๆคนที่อ่านบทความผมอยู่นี้ ก้อเป็นหนึ่งในนั้น ที่ผมกล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องดี สนับสนุนอยู่แล้ว แต่ อยากให้ คนรุ่นเก่าๆที่เข้ามาก่อน จะอายุ เท่าไหร่ ให้ถือเป็นรุ่นพี่ ในวงการครับ มีสิทธิ์ที่จะแนะนำ รุ่นน้อง สอนรุ่นน้อง ให้เดิน ในทางที่ถูก ไม่ออกนอกแนวทาง  อย่าเอาผลประโยชน์ มาใช้กับ คนเล่นรุ่นใหม่ๆ มากนัก อย่างที่ เค๊าบอกว่า รับน้องหน่ะ คนที่เข้ามาใหม่ๆ จะต้องรับน้องก่อน  บอกได้เลยว่า ทำไม่ถูกครับ

     มาสมัยนี้ การหาอะไหล่ มันง่าย ทั้งร้านอะไหล่ ทั้งร้านซ่อม ยิ่งเดี๋ยวนี้ มีร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซต์ ที่พอซ่อม รถใหม่ๆ เป็นบ้าง ซ่อม เครื่องซาเล้ง (ที่เมื่อก่อนจะเป็นเครื่อง C50 C65 C70 )ได้บ้าง  ผันตัว มาตั้งตัวบอกว่าตัวเอง เป็นช่าง รถเก่า รับทำรถเก่า แล้ว ก้อหากินกับเด็กๆ ด้วยการ ยัด ห่าเหว อะไรก้อตามที่ตัวเอง พอจะหามาหลอกขายได้ ใส่รถแล้ว บอกเด็กมันว่า ดี แจ๋ว เลย เด็กๆที่เข้าวงการ มา อยากจะขี่รถ เค๊าจะรู้เรื่องอะไรกันนักเชียว

     ผมเชื่อว่า คนที่ เข้ามาขี่รถเก่าทุกๆคน เริ่มต้นมาจากความชอบก่อนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการชอบ ในรูปทรง ชอบตามเพื่อน ชอบเพราะพ่อ  ชอบเพราะหนัง หรือ มิวสิค และ ชอบเพราะเหตุผลอีกมากมาย แต่ บทสรุปคือ เพราะชอบ

เกริ่นมาซะยืดยาว มาเข้าเรื่องดีกว่า

     ก่อนอื่น คงต้องแยก ออกมา เป็นประเภทๆ ก่อนละกันนะครับ ว่า คนเล่นรถเก่า มีแบบไหนบ้าง

- แบบแรก คือ คนที่ เล่นรถ ทำรถ ในแบบ Original เดิมๆ ให้เหมือนออกห้าง เก็บทุกรายละเอียด  ตามหาอะไหล่ ของแท้ใหม่ มาใส่ ให้รถเนี๊ยบ เก็บตั้งแต่ สี ยัน อะไหล่ ยันน็อต เก็บและตามเท่าที่ จะหาได้  ออกไปทาง บ้า ยอมทุ่มเท เวลา กัดฟัน หาเงิน มาซื้อ ถือคติ แพงไม่กลัว กลัวไม่มีกับแม่งไม่ขาย เท่านั้น บางคนมีตังส์ หน่อย ก้อตามหาของกันสนุก บางคนไม่มีตังส์ แต่มีใจ หาของก่อน แล้ว หาเงินที่หลังก้อมี เพราะกลัวไม่ทันเพื่อน

- แบบสอง คือ คนที่ ใช้คำแทนตัวเองว่า ชอบแห้งๆ เดิมๆ(กูอยากรู้จังว่าใครมันใช้คนแรกวะ ไอ้แห้งๆเนี่ย) แบบสองนี้ ได้รถมา จะไม่ทำสี ไม่เปลี่ยอะไหล่แท้ใหม่ ถ้าเป็นของติดรถเดิมๆ อยู่แล้วจะไม่เปลี่ยน จะใช่ซ่อม หรือถ้าชุดสี ตรงไหนแตก ถ้าเป็นพลาสติก ก้อจะพยายาม หาซื้อมือสอง แต่ขอ แท้ๆนะถ้าเป็นของใหม่ ไม่เอา เพราะเดี๋ยวไม่เข้ากับรถ คนพวกนี้ มักจะเข้าใจไปเองว่า กว่าจะได้สภาพแห้งๆ มันยากมาก  และคิดว่ายากกว่า พวกที่ มาทำสีใหม่ เปลี่ยนอะไหล่แท้ใหม่ ซะอีก (ไม่รู้มันคิดได้งัย ถ้าลองมาทำดูแล้วจะรู้ว่าไอ้แห้งๆ เนี่ย ทำง่ายจะตาย ) บางทีเห็นจอดอยู่ นึกว่าขยะ เก่าซะเน่าเชียว

- แบบสาม คือ คนที่ คนชอบรถ เซียงกง (ตัวผมก้อชอบ) แต่ คนพวกนี้ จะ มีการชอบแบ่งออกมาอีกคือ เป็นเซียงกง แล้ว เอามารื้อทำใหม่ ตามอะไรที่เก่าและ ชำรุด ให้กลับมาใหม่เหมือนเดิม ไม่มีซีเรียสเรื่องทะเบียน กับ อีกแบบ คือ อาจจะ ซื้อรถเซียงกง มาแต่ รื้อ รวมกับ รถที่มีทะเบียน ในรุ่นเดียวกัน ต้องการแค่ อะไหล่ ให้มันครบ ง่ายต่อการตามอะไหล่ ส่วนที่ขาด ก้อตามเก็บเอา แต่เน้นแท้ และจากรถเซียงกง ก้อจะกลายเป้นรถไทย ที่อะไหล่ครบ โดยง่าย อันนี้ เป็นทางลัด ที่ต้องใช้เงิน แต่ ก้อบอกได้เลยว่า ไม่ง่ายเหมือนกัน ใครทำเสร็จมา ต้องชื่นชม เพราะ ยากกว่า ไอ้ แห้งๆ เดิมๆ เศษเหล็กอยู่ดี



- แบบที่สี่  คือ คนที่ เล่น สไตล์พ่อค้า คือ ชอบรถนะ รักรถนะ แต่ ก้อพร้อมจะซื้อมา ขายไป พวกนี้ จะไม่แต่งอะไรมากไม่เปลี่ยนอะไรให้เยอะ เดี๋ยว จะเป็นการเพิ่มต้นทุน มีจังหวะดีๆ ขายได้ขาย มีกำไรก้อขาย ขี่ไปขายไป บางทีก้ออาจจะ ถอดอะไหล่ ที่หายากๆเก็บไว้ก่อน แล้ว ขายรถไปได้คันใหม่มาก้อเอามาใส่ หรือ อะไหล่ที่ถอดก่อนขาย อาจจะขายเป็นอะไหล่ ก้อสุดแล้วแต่ ไม่ถือว่าผิดอะไร มีคนทำกันเยอะแยะ

- แบบที่ห้า คือ คนที่ เล่น ชอบรถแต่ คิดว่าตัวเองมีกำลังน้อย เลยจะไม่ค่อยหา ไม่ค่อยแต่ง อะไหล่ ไม่ต้องแท้มาก อันไหน แทนได้ ก้อแทนไป ดัดแปลงนิดหน่อย ถูกเงิน ก้อโอเคแล้ว ไม่ต้องให้มันแท้มากนัก ไม่ต้องเดิมมากนัก ทั้งๆที่ ถ้ามีโอกาสก้ออยากจะทำแต่ ติดที่ว่า ดันคิดว่าตัวเอง ไม่มีตังส์ ไม่มีเงิน เลยไม่ดิ้นรนทำ ไม่ไขว่คว้า ไม่พยายาม รถไม่คิดจะขาย มีไว้ แต่ไม่ทำให้ดีสักที อะไรประมาณนั้น แต่ยังดี ที่ ไม่คิดจะแปลงจนน่าเกลียด

- แบบที่หก คือ คนที่คิดว่า ตัวเอง คือนักสร้างสรรค์ ไอเดียบรรเจิด ด้วยการ ที่ มันจับ รถ มาเปลี่ยนอะไหล่ เปลี่ยนโช๊ค เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนรูปทรง ซะจนจำแทบไม่ได้ ว่ารถ รุ่นอะไร แล้ว ก้อพยายามที่ จะคิด คำพูด รุ่น สวยๆเท่ห์ เป้นภาษาอังกฤษ ขึ้นมาให้ดูอินเตอร์  แบบนี้ ฝรั่งก้อมีทำ แต่ไม่เสี่ยวเหมือนคนไทย  เพราะการแปลง ของคนพวกนี้ ไม่ลงทุนมากนัก เอาอะไหล่ที่พอมี ไม่ต้องมีราคา ค่าตัวอะไรมาก จับยัดนู่น ยัดนี่ ดูเหมือนจะสวย และ ก้อพอใจ ชื่นชมกันเองในกลุ่ม กลุ่มเล็กๆที่เรียกว่ารัก ฮ่าๆๆ ไอ้พวกนี้ น่ากลัว ตัวทำลายวงการเลย

- แบบที่เจ็ด คือ คนประเภทเดียวกับแบบที่หก แต่ คนละเกรดกัน พวกนี้ นิยม ใช้ของแพง มาใส่รถ เน้นของดี แต่ ประมาณว่า กูมีตังส์ กูชอบแว้นซ์ แต่กูก้อคลาสสิค นะว๊อย เลย เอารถ คลาสสิค รุ่นเก่า มาจับโมดิพาย ซะ ที่แน่ๆเปลี่ยนเครื่องแน่นอน เปลี่ยนหมดทั้งคัน เหลือแต่ ตัวถังนิดเดียว แล้วเสือกมีหน้ามาพูดว่า กูขี่ รถคลาสสิค ต๊ายส์ หน้าไม่อาย ไอ้พวกนี้ ตัวทำวงการรถเก่าเสื่อมเสีย พอๆกับ แบบที่หกหน่ะแหละ

- แบบที่แปด คือ คนที่รักรถ ชอบรถ แต่ ต้องใช้งานด้วย เลย คิดว่ารถเครื่องเดิม ไม่สามารถ วิ่งใช้งานได้จริง จึงหาเครื่องมาเปลี่ยนเหมือนกัน แต่ ยังคง อย่างอื่นๆไว้ในรูปแบบทรงเดิม แท้บ้างเทียมบ้าง แต่ ไม่แปลงจนน่าเกลียด  เน้นเปลี่ยนแค่เครื่อง อาจจะมีเครื่องเก่าเก็บไว้ หรือไม่ ก้อแล้วแต่ เจ้าของเป็นคนๆไป อาจจะทำแห้งๆ หรือ ทำสี ก้อมีทั้งนั้น


แต่ไม่ว่า จะเป็นแบบไหน ประเภทไหน ผมเชื่อว่า มันก้อเป็นความชอบส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น

แต่ จงจำไว้เสมอว่า " บางที สิ่งที่คุณชอบ คุณทำ มันอาจจะไป ทำลาย คุณค่า ของรถ ไป ก้อเป็นได้ "

รถหนึ่งคันมันมีอะไรมากมายนัก มีความทรงจำ มีความผูกพัน มันผ่านเรื่องราวมามากมาย ก่อนจะมาถึงเรา

รถเก่าเนี่ย มันสนุก ตอนที่เรา ได้เติมเต็ม ในส่วนที่มันสึกหรอและขาดหายไป ทำให้ เค๊ากลับมาดูหนุ่ม อีกครั้ง ทำให้เค๊ามี รูปลักษณะ เหมือนเมื่อตอนที่เค๊า พึ่งออกมาใหม่ๆ ผมว่า มันเป็นอะไรที่ มีคุณค่าทั้งตัวรถ และ จิตใจ กันเลยทีเดียวนะครับ


การที่ เราเอา อะไหล่รถรุ่นใหม่ๆ มาใส่ เอาเครื่องรุ่นใหม่ๆ มาใส่ เพื่อต้องการแค่ความเร็วเท่านั้น ผมว่า มันไม่สามารถ จะเรียกรถคันนั้นว่า รถเก่าได้อีก อย่าว่าแต่ จะเรียก รถเก่าเลย จะเรียกรถคลาสสิค ผมยังกระดากปาก กระดากใจเลย ครับ

ในเมื่อเครื่องยนต์มันไม่ใช่ อะไหล่มันไม่ใช่ แล้วมันจะเรียกว่ารถเก่าคลาสสิค ได้ยังงัย
 


หรือ บางที การที่ คุณบอกว่าคุณมีรถเก็บไว้เยอะแยะ มากมาย แต่รถเหล่านั้น สภาพดูไม่เป็นรถ พิงกัน ระเนระนาด อะไหล่ชำรุดทรุดโทรม ขาดหายไป ไม่มีคันไหน ที่มีสภาพพร้อมใช้ได้เลย คุณยังจะเรียกว่าคุณเก็บรถเก่าอยู่หรอครับ

น่าจะเรียกว่า เก็บเศษเหล็ก หรือ ดีหน่อยก้อเก็บเศษซากรถเก่า ก้อน่าจะเหมาะกว่า


จริงๆมีอะไรมากมาย อยากจะพูด อยากจะบอก แรงๆ ให้สะเทือน ตับ ไต กันไปเลย แต่ ก้อ กลัวว่า จะหักหาญ น้ำใจ คนรักและชอบ ในแบบเดียวกัน

แต่ ผมก้อยังยืนยันว่า ผมไม่สนับสนุน และไม่เคยเห็นดี กับคนที่ทำตัว เป็นเหลือบวงการ คลาสสิค หรือ เป็นพวก เสนียด วงการ ที่ทำให้ วงการคนเล่นรถเก่าเสียชื่อหรอกนะครับ

วงการรถเก่า เค๊ามีแต่ พี่ น้อง และ ผองเพื่อน ไม่ใช่ ที่ๆ นักเลง นักรบ จะอยู่

ลูกผู้ชาย มีเรื่องได้ ไม่แปลกครับ แต่ ต้องดูด้วยว่าที่ไหน และเรื่องอะไร สมควรหรือไม่ อภัยกันได้มั๊ย  ถ้าไม่งั้น ก้อไปเป็นกุ๊ย ครับ ไม่ได้เรียกลูกผู้ชาย จำไว้  
 


มุมมอง ของเรา เป็นการมอง ภาพรวมๆ ไม่ได้เข้าไปเจาะลึกมากมาย ครับ แต่แค่ แบ่งประเภทออกมาเท่านั้น อาจจะมีอีกหลายประเภทที่ไม่ได้พูดถึงบ้าง 

แล้วเพื่อนๆ พี่ๆหล่ะอยู่ในประเภทไหนกัน

ตั้ม - Motor Classic Shops 

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาค2 ว่ากันเรื่อง เกี่ยวกับ กรรมการ ตามงานประกวดรถ

เรามาต่อ ตอน2กัน อันนี้ เกี่ยวกับ รถ และ กรรมการ ในงาน ล้วนๆ เลยดีกว่า

หลังจากที่ ผมได้มีโอกาสเห็น สัมผัส และอยู่ในแวดวง รถเก่ามาเกือบจะยี่สิบปีแล้วเนี่ย ได้มีโอกาสเห็น ความเปลี่ยนแปลง ต่างๆ ของตัวผู้เล่น และ มุมมองในการเล่นรถรุ่นเก่า อย่างมากมาย สมัยก่อน รถญี่ปุ่นอย่างเราๆ โดนดูถูก ด้วยซ้ำจากคนเล่นรถค่ายอื่นๆ

จนมาถึงปัจจุบัน รถญี่ปุ่นอย่างเราๆก้อสามารถพิสูจน์ ให้ คนเล่นรถค่ายอื่นๆได้เห็นว่า เราก้อมีดี ไม่แพ้กันเลยทีเดียว และ บางรุ่นราคา ก้อสุงกว่า ค่ายอื่นๆใน CC.และ ปีผลิตเดียวกันด้วยซ้ำ

เอาหล่ะ มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า  ก่อนอื่น ขอ พูดถึง คณะกรรมการ และ ผู้ที่คัดเลือกรถที่เอาเข้ามาประกวดก่อนนะ ว่า...


คุณใช้ดุลยพินิจ หรือ กฏเกณฑ์ อะไร ในการเลือกรถและตัดสินรถ ว่าคันไหนควรได้ และ คันไหนไม่ควรได้ เริ่มตั้งแต่ การแบ่งโซน จัดประเภทรถที่เข้าประกวด เลือกมายังงัย มีการคัดก่อนมั๊ย หรือ ใคร จ่ายค่าประกวด แล้ว ก้อเข้ามาประกวดได้ทุกคัน ไม่ว่ารถมึงจะสภาพไหน ได้หมด เพราะ คนจัด ได้ตังส์ งั้นหรอ

ผมได้ยินและ รู้มา เข้าหูบ่อยมาก ถึง คำตัดสินของกรรมการ ที่ตัดสิน งั้น เดี๋ยวผมจะขอถามก่อนว่า

คนจัดงาน เวลาเลือกคณะกรรมการที่มาตัดสินเนี่ย ใช้จากอะไรวัด ว่า เค๊าควรเป็นกรรมการ


- พรรคพวก รู้จักกัน
- มีอายุ ดูอาวุโส
- ขายอะไหล่ เปิดร้าน
- มีรถเก็บเยอะ แต่ที่เก็บไม่รู้สภาพยังงัย
- เล่นรถมานาน มีชื่อเสียงดีหรือป่าวไม่รู้ รู้จักคนเยอะ


อย่างที่ข้างบนหรือป่าวนะเวลาคนจัดงาน เลือกกรรมการ มาตัดสิน

ขอมองในมุมผมละกันนะครับว่า กรรมการ แต่ละคน นั้นมีมาตราฐานขนาดไหน มีความรู้ ความเข้าใจ ในรถรุ่นเก่าๆที่ตัวเองจะตัดสินมากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะไปตัดสินรถคนอื่นๆ

ก่อนที่จะไปบอกว่ารถคนนี้ควรได้ รถคนนั้นตกรอบ อยากถามว่า คุณรู้จัก รถรุ่นนั้นๆดีกว่าเจ้าของรถเค๊ารึยัง  การที่จะเป็นกรรมการได้ คุณต้องมีความรู้ รู้จัก รถ รุ่น ปี รายละเอียด อะไหล่ เครื่องยนต์ และชื่อรุ่นรถหลายๆรุ่น ยิ่งรถที่เอาเข้ามาประกวด คุณต้องรู้จักให้หมด ไม่งั้น คุณมีสิทธิ์อะไรไปตัดสินรถคนอื่นเค๊า ในเมื่อคุณยังรู้น้อยกว่า เจ้าของรถที่เอามาประกวด

จากประสบการ์ณที่เคยเห็นๆมา ผมเคยเห็น คนที่ไปนั่งเป็นกรรมการ ตัดสินรถ เชื่อมั๊ยว่า เห็นมันและรู้จักมัน ว่า มันรู้จักแค่รถรุ่นที่มันขี่รุ่นเดียว และ งู งู ปลาๆด้วย ยังงง ว่า มันไปตัดสินได้งัยวะ แค่ มันเป็นคน ที่พูดเก่ง รู้จักคนเยอะ เท่านั้นเอง

กรรมการ ไม่มีมาตราฐาน ผมอยากรู้จังว่า คนที่ได้รางวัลไป มันน่า ภูมิใจ ตรงไหนวะ สู้เก็บรถไว้บ้าน ให้คนอื่นๆมาดู ซะยังจะดีกว่า

ยิ่งเจอประเภทเล่นพวก พวกมึง พวกกู เห็นๆอยู่ว่า รถทุเรศๆ ปีก้อไม่เก่า เสือกได้รางวัล เพราะมันดันเป็น เด็กคนนั้น ซ่อมจากร้านนี้ พรรคพวกกันเอง เอามาลง และพอได้รางวัล อีก3-4วัน ก้อเอาไปลงเนต ขายรถ พร้อมตั้งถ้วยรางวัล ไว้ที่เบาะ บอกว่า ขายรถ ได้รางวัล ที่1จากงานนั้น งานนี้  บอกตรงๆนะ รถบางคัน ที่ชนะเลิศที่หนึ่ง ยังสวยไม่ได้ครึ่ง รถที่เด็กแถวบ้านผม ขี่แล้วมันบ่นว่ารถมันไม่เดิมเลยครับ

ผมมีคำแนะนำ ในกฎเกณฑ์ การประกวดรถนิดหน่อย ว่า

การ ที่ตัดสิน รถว่าใครได้รางวัลที่เท่าไหร่ นั้น คุณต้องบอกได้ว่า ทำไม ถึงได้ และ ทำไม ถึงไม่ได้ แพ้ ชนะกันตรงไหน อันนี้ อาจจะ ทำกับ รางวัลที่1 - 2 - 3 เท่านั้นก้อได้

ประกาศออกไมล์ ให้ คนที่มาร่วม ประกวดและ ชม ได้รู้ และ ได้ความรู้กันด้วยเลยว่า คันที่ชนะ ชนะเพราะอะไร รถเป็นยังงัย อะไหล่ อะไรเดิมบ้างแท้บ้าง ถึงได้ชนะรางวัลที่2 มีเหตุผล บอก คนที่มาชม ได้อย่างชัดเจน มีมาตราฐาน และ ความสามารถ ในการตัดสิน กันไปเลย

ผมเชื่อว่า มันจะทำให้ งานนั้นๆ ดูมีความน่าเชื่อถือ น่าศรัทธา มากกว่า การที่ กรรมการ มาเดินๆ จดคะแนน เสร็จแล้ว ก้อไปสรุปกันเอง เออเอง ว่า คันนั้นได้ คันนี้ได้

เจอกรรมการ หลายๆคนที่แม่ง รู้จักแต่ ฮอนด้า ยี่ห้ออื่น มึงไม่ต้องหวัง ก้อมี หรือบางงาน เห็นกรรมการ เห็น ขาประจำที่ เดินสาย ล่ารางวัล (ทั้งๆที่ รถก้อไม่ได้ ดีแจ่วอะไร) คนที่คิดจะเอารถเข้าประกวด ก้อท้อใจแล้ว
ส่วนรถ ที่ จะเข้าประกวดนั้น ผมอยากให้ตัวเจ้าของงานนั้นๆ พยายามนึกถึง คุณค่าของรถรุ่นเก่าๆ ให้มากๆ หน่ะครับ

ไม่ใช่ว่า รถบางคัน ทำมาซะจำไม่ได้เลยว่า นี่รถรุ่นอะไร และ นี่หรอรถเก่า ก้อให้เข้าประกวด

จงอย่า ตั้งรางวัล ตามรถที่จะเข้าประกวด แต่ ให้ตั้งรางวัล ตามคุณค่าของรถ ทั้งนี้ เพื่อ ความน่า ศรัทธา ในตัว ของงาน นั้นๆ ครับ

ไม่ว่าจะเป็น รางวัล แต่งสวย รางวัลแปลงสวย หรืออะไรที่นอกลู่นอกทาง อย่าไปมีเลยครับ

ผมอยากให้คนเล่นรถเก่า ทุกๆคน ทำรถตัวเอง ให้มีคุณค่าใบแบบที่ควรจะเป็นหน่ะครับ ผมเข้าใจนะครับว่า ความชอบคนเราไม่เหมือนกัน แต่ อย่าลืมสิว่า เราเข้ามา อยู่ในวงการรถเก่า วงการ Vintage ก้อควรจะต้องอยู่ในขอบเขต ความเหมาะสม ของการเล่นรถรุ่นเก่า

การที่ ไปเปลี่ยนไปแปลงเครื่อง ของรถ เป็นเครื่องรุ่นใหม่ๆ แล้ว คุณจะมาบอกได้ยังงัย ว่ารถคุณเป็นรถรุ่นเก่า เสน่ห์ของรถเก่า อยู่ที่การตามหา ตามเก็บ ส่วนที่สึกหรอและขาดหายไป เรามาปลุกชีวิต ความทรงจำเก่าๆ ของยุคปู่เรา พ่อเรา ให้มันมาอยู่ในยุคของเรา ด้วยการ เติมเต็ม ส่วนที่มันหายไป ให้ คงเดิม ให้ได้มากที่สุด ไม่ดีกว่าหรอ

แล้ว เราก้อเอามาแข่งกัน โชว์กัน แลกเปลี่ยนความรู้กัน ในงาน ที่ มีจัดขึ้นมา ให้เป็น มิตรภาพ ที่เกิดขึ้น และได้ความรู้ อีกด้วย

ส่วนตัว ผมไม่ตำหนิ เด็กรุ่นใหม่ๆที่ แปลงรถ เปลี่ยนอะไหล่ หรอกครับ แต่ ผม ตำหนิ พ่อค้า และ ช่าง และ คนเล่นรุ่นเก่าๆ ที่หากิน กับน้องๆ โดยไม่คิดถึง คุณค่า ของรถ สอนและบอกแนวทางผิดๆ เพื่อประโยชน์ตัวเอง ไม่แนะนำ สิ่งดีๆสิ่งที่ถูกต้องให้น้องๆรุ่นหลังๆ

คุณเปลี่ยนแปลงรถ แต่งรถแบบ เพี้ยนๆ มันก้อเหมือน คุณใส่รองเท้าปลอมๆ เสื้อปลอมๆ กางเกงปลอมๆ เดินไปเดินมา แล้วคุณก้อนึกไปเองกันในกลุ่มว่า กูหล่อ กูเท่ห์ เหมือนที่เด็กแว๊นซ์ๆ มันคิดกันหน่ะแหละครับ

รถ แต่ละคัน มันจะ บ่งบอก ถึง รสนิยม ของตัวเจ้าของ ได้อย่างชัดเจน

คงไม่มีใครไปด่าคุณต่อหน้าหรอกครับ ต่อหน้าเค๊าก้อแกล้ง ชื่นชมไปงั้นๆแหละ ลับหลัง ก้อคงจะบอกว่า ไอ้เสี่ยว ไอ้ลาว แม่งนึกว่า แม่ง เท่ห์ตายห่าเลยมั๊งนั่น

การทำรถหนึ่งคัน ให้กลับมาสมบูรณ์ได้นั้น นอกจากความสุขใจที่จะได้รับแล้ว มันยังเป็นความทรงจำ ความผูกพัน ที่ไม่อาจจะลบเลือนไปจากใจเรา ได้หรอกครับ

ตั้ม - Motor Classic Shops

ว่ากันถึง การจัดงานรถคลาสสิค ในเมืองไทยบ้านเรา

 วันนี้ เสี่ยงกับการโดนเกลียดหน้ากันซะหน่อย กับการเขียนเรื่อง การจัดงานรถคลาสสิค ญี่ปุ่น และประกวด รถคลาสสิค ญี่ปุ่น ที่มีเกลื่อนกลาด กันเต็มไปหมด

     ขอออก ตัวแรงๆ ก่อนเลยว่า สิ่งที่จะเขียนและคิด ไปทั้งหมดนั้น มันไม่ได้มีเจตนา จะทำลาย หรือ บั่นทอนกำลังใจของผู้จัดงาน หรือ ไม่คิดจะเจาะจง ว่าใคร กลุ่มใดๆ ทั้งนั้น แต่ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ของผม ที่ได้เห็นและ รู้มาจากเรื่องจริงทั้งหมด


     ผมเคยมีโอกาส ได้ไปหลายๆงานอยู่ (ไปแบบเงียบๆและไม่มีใครเชิญด้วยซ้ำ)  ได้เห็นลักษณะของงาน แต่ละงาน แต่ละพื้นที่ มีแบบฉบับ ในทิศทางเดียวกันหมด นั่นคือ


- มีการประกวดรถ หลากหลายประเภท
- มีคอนเสริ์ต มีดนตรี มีโคโยตี้
- มีประกวดมิสซ้อนท้าย
- และสุดท้าย มีตีกัน


แต่ตรงจุดนั้น ผมคงไม่ขอเอ่ยถึงมากนัก แต่ ที่วันนี้ ผมจะพูดถึง ผมขอเหมาแบบรวมๆ และสรุปแบบสั้นๆ ละกันนะครับ ว่า จำเป็นด้วยหรอครับ ที่ งานโชว์รถ ประกวดรถ ต้องมี วงดนตรี มาเล่นสด แล้วให้ คนที่มา ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ และ ไปเต้นหน้าเวที (เพื่ออะไร) ผมเห็น บ่อยมากๆเกือบทุกงาน เลยด้วยซ้ำที่ ทำแบบนี้ เหมือนเป็นการ จัดการแสดงดนตรีมากกว่า เริ่มตั้งแต่ การ แจกใบปลิว หรือ โฆษณา ตามหน้าเวป แล้วว่า งานรถ ครั้งนี้ จะมีใครมาแสดง

อยู่ในงาน จะใช้เป็นเปิดเพลง จากเครื่อง เบาๆให้ พอมีสีสรร กับงานไม่ได้หรอครับ เพื่อว่า คนที่มาร่วมงานจะได้ซึมซับ และ เข้าใจว่า นี่ กู เดินอยู่ในงานรถ นะ ไม่ได้มาดูคอนเสริ์ต    พอมี ดนตรี ปั๊บ เอาแล้วคราวนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก้อคือ ต้องมีโคโยตี้ มาเต้น หรือ ดิ้น พล่านๆ โชว์นู่น โชว์นี่ ให้ หนุ่มๆ คึกคัก

และก้อตามมาติดๆ กับประกวดมิส ซ้อนท้าย บอกตรงๆ กูอยากรู้เหลือเกินว่า ใครมัน คิดเป็นคนแรกวะ  ประกวด ก้อพอรับนะ แต่ เจอบางงาน แทนที่จะให้โชว์วิสัยทัศน์เกี่ยวกับรถ แต่ ดันเสือกให้เต้น ให้ ร่อน โชว์ ซะกระหรี่ ยังอาย ไม่เข้าใจ จริงๆ ว่า คนจัดงาน มันใช้สมอง ฝั่งไหนคิด


พอเสร็จแล้ว บทสรุป ไม่มีอะไรมากมาย พอมันเมาได้ที่ ก้อเริ่มมีเขม่น แอ๊ก หญิง กันแล้ว ทำเป็นเก๋า ทำเป็นคน เก่ง โชว์พาวว์ ว่ากูเจ๋ง พวกเยอะ หาเรื่องคนนั้น คนนี้ ตีกัน จนงานพินาศ ไอ้พวกนี้ เวลา จะไปงาน แม่ง ทำตัวหยั่งกะ จะไปรบ พกมีด พกปืน พกอาวุธ แถมพอมีพวกเยอะๆ ขับมากันเต็ม ทำเป็นขี่รถซ่าส์ๆ ซิ่ง ไปซิ่งมา บอกตรงๆ ไม่ใช่ผมคนเดียวนะ แต่คนส่วนใหญ่ทั้งหมดหน่ะ เค๊ามองว่า ทุเรศ ว่ะ ไม่มีใครเค๊าชื่นชม สรรเสริญ มันหรอก มีแต่ สมเพช

เจอบางงาน มีให้นอนข้ามคืน ตั้งเต็นท์กัน ก้อดันไม่มีเจ้าหน้าที่ ควบคุมดูแลให้ดี บทสรุป คืนนั้น มั่วกันไปหมด ตั้งแต่ เล่นยา เล่นไพ่ ลักของ มั่วเซ็กซ์ มุดเต็นท์นั้น ออกเต็นท์นี้ เละเทะ หยำเป ไปหมด เห็นแล้ว หดหู่ใจ นึกถึงว่า ผู้หญิงที่ไป ถ้าเป็นลูกเป็นหลาน เป็นน้องเรา คงจะเศร้าน่าดูที่ ทำตัว ยิ่งกว่า โสเภณี ซะอีก


ยังงัย ก้อฝากไป ถึง ผู้จัดงาน ต่างๆ นะครับ ให้ถามตัวเอง หรือ หรือ คิดถึง ภาพพจน์ วงการ รถเก่าบ้างนะครับ ไม่ใช่แต่ จ้องแต่ หวังกำไร จากค่าตั๋ว ค่าบัตร แล้ว ไม่คัดคุณภาพ กันเลย  ขอให้มีจิตสำนึกและ จรรยาบรรณบ้างก้อดีนะครับ


ควรคำนึง ถึง ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับรถ ที่ผู้มางานจะได้รับ เพิ่มเติมสีสรร บ้าง นิดหน่อย ไม่ว่ากัน อาจจะสั่งห้าม ดื่มหรือขาย และเอาเข้ามาในงานของ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ผู้ดูแลให้ทั่วถึง หน่ะครับ

ยังงัย จบเรื่อง การจัดงานรถ แค่นี้ ก่อนดีกว่า เดี่ยว มาต่อ กับ มุมของการประกวดรถบ้าง ที่ต้องแยกออกมา เพราะว่า มันคนละส่วนกัน มันยาว ครับ ยกไปต่อ ตอน2 ละกันนะครับ


ตั้ม - Motor Classic Shops