บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Motor Classic Shops

Motor Classic Shops (มอเตอร์ คลาสสิค ชอปส์)

คำนี้ ในความคิดหรือสายตา ของคนอื่นๆ จะคิดอ่านหรือมองแบบไหน ผมคงยากจะทราบได้แน่ชัด แต่สำหรับผมแล้ว

ผมมองว่า มันยิ่งใหญ่ มันคือความฝัน มันคือแรงบันดาลใจ ของใครๆ ยิ่ง ถ้า ใครที่มี นามสกุล นี้ต่อท้าย ผมว่า มันเป็นอะไรที่น่าภูมิใจ จริงๆครับ

เพราะ กว่าจะมาเป็น Motor Classic Shops นั้น ผ่านเรื่องราวมาเยอะมากๆ ทั้งคำดูถูก เหยียดหยาม ปรามาส หรือการใส่ไฟ ใส่ร้าย ในทางที่ไม่ดี ไม่จริง ต่างๆนานา  ตัวผมกับ Motor Classic Shops เราผ่านมันมาด้วยกัน ทุกร้อน ทุกหนาว

เราได้พิสูจน์ เรื่องราวต่างๆ ที่ทั้ง มีคนครหา ทั้งใส่ร้าย เราได้ใช้ เวลา พิสูจน์ ถึงความจริง ว่าเราได้เป็นดั่งคำคน หรือป่าว

เราเรียนรู้ เราศึกษา เราเติบโต ในทุกๆวัน ในทุกๆเวลา เรามีแต่การเรียนรู้ ตลอด เราพยายาม ทำให้ลูกค้าและคนที่รักในรถรุ่นเก่า รู้ว่า เรามีความรักในรถรุ่นเก่ามากแค่ไหน เมื่อรักก้อต้องเรียนให้รู้ ดูให้เห็น เป็นให้ขาด

เราเคยถูกหลอก เราเคยถูกฟัน มามากมาย ในตอนที่เราไม่รู้ และเมื่อมาถึงวันที่เรารู้ เราจะไม่ทำในสิ่งที่ เราเคยถูกกระทำมาแน่นอน

ทั้งหมดที่ ภรัมภบท มาเนี่ย แค่ อยากจะบอกว่า

คนที่มีโอกาสได้ก้าวเข้ามาเป็นครอบครัว ของเรา ใช้นามสกุลของเรา จงภูมิใจ เถอะว่า คุณสามารถ ใช้นามสกุลนี้ อย่างเต็มภาคภูมิ ได้อย่างองอาจ เพราะ เราทำมาไว้ดี และจงรักษา ชื่อเสียงที่เราได้ทำมาอย่าให้เสียหาย

มีคนไม่มากที่ได้ใช้นามสกุลนี้ ในแบบ ตัวจริง เพราะว่า พี่น้องเรา เรารู้อยู่แล้วว่าใครตัวจริง คนที่เอานามสกุลเราไปแอบอ้าง จะยังงัย ผมไม่สนใจ

เพราะไม่ว่ายังงัย ตัวจริง ก้อคือตัวจริง

Motor Classic Shops จะต้องอยู่ในวงการรถรุ่นเก่า สายญี่ปุ่น ไปอีกนานเท่านาน อย่างน้อยก้อตราบเท่าในหนึ่งชีวิตของผม


ตั้ม - Motor Classic Shops

วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

อยากเขียนอะไร ก้อ บันทึก ไว้ในบล็อกที่แหละ

บางครั้ง ความทรงจำของเรามันก้อนึกได้แค่ว่า ครั้งนึงๆ เราเคยไปไหน ทำอะไรมาบ้าง แต่สิ่งที่จะช่วย เก็บความทรงจำของเราให้ชัดเจนอยู่เสมอ ก้อคือภาพถ่าย ในสถานที่ต่างๆ ที่บางที ความจำของเรา อาจลืมมันไปแล้ว ภาพถ่ายก้อเป็นส่วนช่วยเติมเต็มความทรงจำได้ดีทีเดียว

----------------------------------------------------------------

วันนี้ วันที่30 ธันวา อีกสอง-สาม ก้อจะอายุ ครบ36ขวบ แก่ขึ้นมาอีกปี และอีก4ปี ก้อสี่สิบ

แม่เจ้า สมัยก่อน กูมองคนอายุ30กว่าจะสี่สิบ ว่าแม่งรุ่นใหญ่ โคตรแก่เลย แต่ทำไม ตัวเราเอง ยังคิดว่า ตัวเองยังวัยรุ่น อยู่เลยวะ

ชีวิตแม่งยังมีอะไรอีกเยอะแยะให้เรียนรู้ ให้รู้จักอีกมากมาย ยังมีรถอีกหลายรุ่นให้รู้จักให้ค้นหา ยังมีสไตล์ อีกหลายอย่างให้เราจับมันมาให้เหมาะกับตัวเอง

ยังมีอะไร อะไรให้เล่นให้สนุก ยังมีหนี้สิน ให้หาเงินมาจ่ายอีกมากมาย เฮ๊อ ๆๆๆๆๆ

เข้าสู่วัยกลางคนแล้วหรอเนี่ย เร็วว่ะ


ผมว่า ผมไม่ได้แก่ขึ้นนะ แต่ผมแค่โตขึ้นเท่านั้นเอง

----------------------------------------------------------------- 

ในขณะที่เราไม่ชอบให้ใครมาหลอก ไม่ชอบให้ใครมาดูถูก ในความคิด ในสิ่งที่เรารัก เราก้อไม่ควรจะไปดูถูก ในความคิดและสิ่งที่รักของคนอื่นๆเช่นกัน

-----------------------------------------------------------------

" ความห่างไกลมิใช่ความห่างเหิน เส้นทางเดินใกล้ไกลไม่ใช่ปัญหา หากคุณรักก็ขอแค่รอเวลา ต้องมีวันเขามองมาเข้าซักที "

-----------------------------------------------------------------    

เล่นรถ มอเตอร์ไซต์ รุ่นเก่า ของญี่ปุ่นมานาน

ทั้งซ่อม ทั้งสร้าง ปลุก ปั้น มามากมายหลายคัน หลายรุ่น

จนมาถึงวันนี้ หมดไฟละ เคยอยากเก็บ ตั้งเป้าไว้ ร้อยคันไม่ซ้ำรุ่น แต่คงทำไม่ได้ หลังจาก ที่เริ่มตัดใจขาย ไปหลายคัน วันนี้ จนถึงวันหน้า คงได้แต่ หันมาเป็นคนขาย แบบเต็มตัว

แต่ยังยึดคติ คือ ขายแบบคนเล่นรถ ไม่ใช่ขายแบบพ่อค้า

มุมมองมันไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะการขายของ หรือ การพูดจา ดูแลลูกค้า บวกกับความจริงใจ ที่ให้ลูกค้า มีได้ไม่เหมือนกันแน่ๆ

ขายแบบของผมคือ อะไร ที่ เราว่าไม่ดี เราก้อไม่ทำ อะไรที่ว่าเอาเปรียบเราก้อไม่ทำ ไม่ชอบอะไรก้อไม่ทำแบบนั้นกับคนอื่นๆเช่นกัน

คิดจะขาย ก้อต้องรู้จักแนะนำ และต้องแนะนำเรื่องจริง ลูกค้าจะซื้อไม่ซื้อเรื่องของมัน ขอให้ได้บอกสิ่งที่ถูกต้องออกไปก่อน ไม่ต้องหวานมากมายอะไร ไม่ได้ขายประกัน ซะหน่อย

ส่วนเรื่องการเก็บรถ คงไม่ละ ชีวิต มีอะไรให้เรียนรู้และ สนุกกับมันอีกมากมายหลากหลาย

ทิ้งสิ่งที่รัก เพื่อไปรู้จัก สิ่งที่ เราไม่เคยรู้ อย่างน้อยๆ จะได้มาเป็นครู คอยบอกรุ่นน้องๆต่อไปในสิ่งที่เคยผ่านมา

สอนคนจากประสบการณ์ มันย่อมดีกว่า สอนคนจากขี้ฟัน


------------------------------------------------------------

ขอออกตัวก่อนว่า .......

ผมไม่ได้ รังเกียจ หรือแบ่งแยก การเล่นรถ ในรูปแบบใดๆทั้งนั้นนะครับ ผมสามารถ พบปะพูดคุย อยู่ร่วมกันได้ กับ น้องๆที่ขี่รถ ทุกสไตล์ พร้อมเป็นพี่ และเป็นเพื่อน กับทุกๆคน

แต่ ผมก้อมีแนวทางในการเล่นรถของผม นั่นคือ ในรูปแบบ เดิมๆ ไม่มีดัดแปลง จะมีนิดมีหน่อย แต่ ต้องไม่ใช่เครื่องกับโครง แน่ๆ

เราสามารถ ไป ในถนนเส้นทางเดียวกัน พร้อมๆกันได้แบบสบายๆ ไม่มีแบ่งแยกครับ เปิดใจ เรียนรู้ ยอมรับ ในซึ่งกันและกัน

แล้ว คุณจะรู้ครับ ว่าการเล่นรถ แบบเดิมๆ มันสนุกและมีเสน่ห์ ขนาดไหนครับ
 
 


----------------------------------------------------------

" ความชอบ ของ คนเรา มีได้ไม่เหมือนกัน จึงทำให้ ความเข้าใจ และ ความรู้สึก ในของอย่างเดียวกัน มีได้ไม่เท่ากัน " 

เรื่องราว ต่างๆ จากเรา

" เวลา " เป็นสิ่งเดียวในโลก ที่ทุกคนได้รับเท่าๆกัน

ไม่มีใครได้เปรียบ ไม่มีใครเสียเปรียบ สักคนเดียว

แต่............ ใครจะใช้เวลาในแต่ละวินาที อย่างมีค่า คุ้มค่า กว่ากัน นี่แหละ เป็นเรื่องสำคัญ


-------------------------------------------------------------------

เห็นเค๊าขี่มอเตอร์ไซต์ ออกทริป กันแล้วก้อนึกสนุก ปน อิจฉา ที่เห็นพวกเขา มีโอกาสกัน

ในขณะที่เรา โอกาสที่จะทำแบบนั้นเหลือน้อยนิดเต็มที

มีหลายคนถามมามากเหมือนกันว่า ทำไม ไม่เคยเห็น ผมออกทริปเลย รึพี่ตั้มไม่เคย ออกทริปไกลๆ

ต้องบอกว่า ในขณะที่เมื่อก่อน ผมออกทริปขี่มอเตอร์ไซต์ ไปทั่วทิศ แดนไกล ท่องเที่ยวแบบนกกระจิบ พวกคุณอยู่ไหนกัน รึยังไม่รู้จักรถเก่า ผมขี่มอเตอร์ไซต์ ล่องไปทั่วมาแล้ว แต่ ไม่ได้มีโอกาสแบบสมัยนี้ คือ มีกล้องที่มันพกพาง่าย มีการแชร์ การโพส กันได้รวดเร็ว บางครั้ง สมัยก่อน แค่นั่งกินเหล้า พูดคุยกันอยู่ดีๆ

อยากจะไปพม่า ก้อขี่ กันไปซะงั้น ก้อมี

แต่ อย่างว่า มาถึง ณ เวลานี้ ไม่ใช่ว่าผมจะทำไม่ได้ หรือ ทำได้แล้วไม่ทำ ผมยังไม่ได้อายุมากมายอะไร ร่างกายยังแข็งแรงไหว หมด แต่ สิ่งที่ ทำให้ผม ต้องหยุดคิด และปฎิเสธ การขี่มอเตอร์ไซต์ ออกทริป ไกลๆ ก้อคือ คำว่า " ภาระ "

ใช่ครับ ผมมีภาระ ที่ ไม่รู้ว่า จะมากไปหรือน้อยไปกว่าใครรึป่าว แต่ ผม ไม่กล้าที่จะเสี่ยง หากเกิดเหตุสุดวิสัย ที่ใครๆก้อไม่คาดคิด ขึ้น

ถ้าผมหยุด ภาระต่างๆ มันไม่ได้หยุดตาม ผมเป็นอะไร ทุกอย่างยังต้องเดินต่อไป แต่ ถ้าไม่มีผม ไหนจะครอบครัว ไหนจะหนี้สิน ไหนจะกิจการ ไหนจะลูกน้อง อีกมากมายทีเดียว ที่จะเกิดผลกระทบ

ผมไม่ใช่พนักงานประจำ ที่กินเงินเดือน ซึ่งถ้าเกิดเหตุขาด พนักงานไปคนนึง ก้อคงไม่สะเทือนอะไร ผมไม่ใช่วัยรุ่น ที่ยังเรียน จึงไม่ต้องใส่ใจกิจการ ผมไม่ใช่คนโสด ที่ไม่มีครอบครัว ลูกเมีย

ผมเป็นเจ้าของกิจการ ที่มีลูกน้อง มีการดิวธุรกิจ เพราะฉะนั้น ไม่คุ้มแน่ ถ้าผมต้องเกิดเป็นอะไร เพียงเพราะความสุขส่วนตัว ความชอบส่วนตัว

ซึ่งมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่า พี่ๆเพื่อนๆ อีกหลายๆคน ที่ยืนอยู่จุดใกล้เคียงกัน ก้อคิดเหมือนผม

หรือ บางทีผมอาจจะคิด มากไป คิดเกินไป แต่ เพราะการคิดเกินไปของผมนี่แหละ ผมถึงมายืนตรงจุดนี้ และยังปลอดภัย อยู่ทุกวันนี้

ไม่ใช่ ไม่อยากไป แบบเมื่อก่อน แต่แค่วันวานกับวันนี้ มันยืนกันคนละจุดแล้วเท่านั้นเอ

ถ้าถามว่าทำไม คนที่รวยกว่าผม มีมากกว่าผม ทั้งเงินและ ภาระ ยังออกทริปเลย ผมคง บอกได้แค่ว่า คนเรา คิดได้ไม่เหมือนกัน ผมหาทุกอย่างมาด้วยมือของผมเอง ผมก้อคิดแค่ว่า ผมจะต้อง เอามือทั้งสอง ประคอง สิ่งที่หามา ให้มันอยู่รอดปลอดภัย และ พาคนอีกหลายชีวิต ให้มีความสุขและสบายไปตลอดให้ได

สำหรับคนที่คิดจะเป็นผู้นำที่ดีแล้ว

" การละทิ้ง ความชอบส่วนตัว เพื่อ เห็นแก่ส่วนรวมมาก่อน เป็นสิ่งสำคัญ "


------------------------------------------------------------

" ถ้ามึงคิดหนึ่ง มึงจะได้หนึ่ง ถ้ามึงคิดสองจะได้สี่ คิดสี่จะได้แปด และถ้ามึงคิดแปลก มึงจะได้แบบ เหลือคณานับ "

แต่ถ้าไม่คิดจะหยิบจะจับ ก้อคงไม่มีอะไรจะเหลือแม้แต่ สิ่งที่เคยมีอยู่ มึงก้อจะไม่มีเหลือ


-------------------------------------------------------------

จะว่าแปลกดีมั๊ย นะที่ คนเราเกือบจะทุกๆคน ที่จะต้อง คิดว่า สิ่งใดที่ตัวเอง ไม่ชอบ นั่นคือไม่ดี

แต่ทำไม ไม่คิดว่า สิ่งที่ตัวเองว่าดี นั้นดีจริงแล้วหรอ

คนเราเกือบจะร้อยทั้งร้อย ที่เวลาไม่ชอบใคร ก้อมักจะ บอกว่า คนที่เราไม่ชอบนั้นไม่ดี และจะมีเหตุผล มาอ้าง อยู่เสมอ เพื่อยืนยันความคิดตัวเอง ทั้งๆที่บางครั้ง ก้อหลอกตัวเอง อยู่เหมือนกัน

คนเราทุกวันนี้ ใจแคบลงเรื่อยๆ โดยไม่ได้รู้ตัวเอง เลยสักนิดเดียว

ทุกๆคนยังคงคิดว่า ความคิดและสิ่งที่ตัวเองทำ นั้น ถูกต้องที่สุด และถ้าใครคิดเห็นต่างหรือกระทำในสิ่งที่ตัวเอง ไม่เคยกล้าทำ นั่นคือ ไม่ดี อยู่เสมอ

โลกนี้ไม่ได้อยู่ยาก เสมอไป หากเรากล้าที่จะมองและเรียนรู้ ทำความรู้จัก กับ สิ่งที่เรียกว่า มนุษย์ ในอีกด้านนึง

ไม่ต้องไปมองใคร หรือ เรียนรู้จากใคร เริ่มจากตัวเราเองนี่หล่ะ


---------------------------------------------------------

ผมขอเสนอ ความคิดเกี่ยวกับ การตัดสิน ประกวดรถ ว่า

กรรมการ ควรจะรู้จัก รุ่นรถ ที่จะตัดสิน นั้นๆ ให้มากกว่าเจ้าของ ก่อนที่จะมีสิทธิ์ไปตัดสิน รถผู้เข้าประกวด

จะไปมีความหมายอะไร ถ้าหากกรรมการที่มาตัดสินรถ ในรุ่นต่างๆ ยังมีความรู้เพียงหางอึ่ง หรือ รู้จักจริงๆแค่ไม่กี่รุ่น หรือรู้จักรถ น้อยกว่าคนที่เอารถเข้ามาประกวด

แล้ว รางวัล ที่ได้รับกันไป มันจะมีความหมายอะไร

ถ้ากรรมการ ไม่สามารถ ให้แนวคิดและความรู้ ข้อมูลต่างๆในรุ่นรถ เพื่อให้ผู้ประกวด เอาไปต่อ ยอด ในวันหน้าได้


-------------------------------------------------------

จงเลือกที่จะไปใน ที่ๆ มีคนต้องการเรา ดีกว่า เลือกไปในที่เค๊าไม่ใส่ใจ

ไปอยู่ในที่ๆดูดี ยิ่งใหญ่แล้วเค๊าไม่เห็นความสำคัญ ทำไม ไม่กลับไปอยู่ในที่ ไม่ต้องเลิศเลอมากนัก แต่ทุกคนมีความสำคัญ ไม่ต่างกันเลยหล่ะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกๆอย่างอยู่ที่การกระทำตัวของเราเองด้วย

อยากให้คนอื่น ให้เกียรติ คุณให้เกียรติเขารึยัง

อยากให้คนอื่นมองเราแบบดูดี แล้วคุณทำตัวดูดี รึยัง

อยากให้คนอื่น พูดจากับเราดีๆ คุณพูดจากับเขาดีแค่ไหน

อะไรที่คุณไม่ชอบ คุณก้อไม่ควรทำกับคนอื่นๆด้วยเช่นกัน

สรุป ก้อคือ เราควรจะเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงตัวเอง ให้ดีก่อน ไม่เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าอะไร ที่ไหน อย่างไร คนอื่นจะไม่ดีในสายตาคุณเสมอ (เพราะคุณแคบ เกินไป ไม่ว่าใจหรือสายตา)
 
 
 
 


----------------------------------------------------------------

" คนเรา คิดได้ไม่เหมือนกัน เพราะมีไม่เท่ากัน "

คนรวย อาจจะคิดได้ไม่เหมือนกับคนจน

คนจน ก้ออาจจะคิดได้ ไม่เท่าคนรวย

บางครั้งในเรื่อง เรื่องเดียวกันไม่มีความคิด ใครผิดหรือถูก เพราะ จุดที่คุณมี และยืนอยู่ มันคนละจุดกัน เท่านั้นเอง


-----------------------------------------------------------------