บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

Converse Made in USA ซื้อได้จากที่ไหน?

หลังจาก ที่เพื่อนๆหลายๆคน อาจจะเคยเห็น ทั้งคนเล่น รองเท้า และคนขาย รองเท้า Converse นั้น มีรองเท้า Converse ที่เป็น Made in USA เอ.... แล้วเค๊าเหล่านั้นเอามาจากไหนกันน๊าาาา


เพราะ ว่า อเมริกา นั้นเลิกผลิตไปตั้งแต่ ปี2002-2003 แล้วนี่นา หรือว่า จะเป็นของทำใหม่ หรือ ก็อปเหมือนกันหล่ะเนี่ย



จึงเป็นที่มาว่า ทำไม ยังมี รองเท้า New Old Stock ที่มาจาก Deadstock หรือ ร้านค้าที่ปิดบริการ ไปแล้ว หรือ สินค้าที่ถูกเก็บไว้ อาจจะโดยขายไม่ได้ หรือ เลิกขาย หรือ ขาย สินค้า ที่ต้นทุนถูกกว่าจากสายการผลิตในประเทศอื่นๆ นั้นยังมีขายกันอยู่มาจนถึงป่านนี้



ทุกวันนี้ รองเท้า Converse USA ที่ นำมาขายกัน ไม่ว่าจะจากต่างประเทศ หรือในประเทศไทยเราเองก้อตาม จะมีอยู่ 2ประเภท ด้วยกัน ครับ ( ในกรณี ที่เราพูดถึง ของแท้ก่อนนะครับ ) คือ

- รองเท้า ใหม่ ที่ ผ่านหรือได้มาตราฐาน (สินค้าไม่มีตำหนิ) ที่บริษัท นำออกมาขายตามปกติ

- รองเท้า ใหม่ ที่ ไม่ผ่าน หรือไม่ได้ มาตราฐาน (สินค้ามีตำหนิ) ที่ถูกบริษัท เก็บไว้ ไม่ได้นำออกมาขาย ในช่วงเวลานั้นๆ (ก่อนบริษัทจะปิดและเทคโอเวอร์ไป)


คราวนี้ เรามาดูแหล่ง ที่เราจะเสาะหา รองเท้า converse made in USA มาใส่ หรือมาเก็บกันดูครับ

เริ่มต้น ก่อนเลย ต้อง




- จากประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่า จะ Yahoo Japan หรือ เวปไซต์ old-sneakers.shop-pro.jp หรือ เวปไซต์ขายรองเท้า จากประเทศญี่ปุ่น การซื้อขายจากเวป ญี่ปุ่นนั้น คุณอาจจะต้องมี User ที่สมัครสมาชิก หรือ บัตรเครดิต ไว้ชำระเงิน และ ภาษา อ่านจะมีส่วนสำคัญ ที่จะทำให้คุณไม่พลาดในการซื้อ (กูเกิล ทรานสเลท ช่วยได้ไม่เท่าไหร่)


- จากเวปไซต์ อีเบย์ คุณอาจจะต้องมี User และ บัตรเครดิต หรือ บัญชี Paypal เช่นกัน แนะนำให้ใช้บัญชี Paypal ในการชำระเงินจะดีกว่า หากเกิด ปัญหา กับผู้ขาย ไม่ว่าจะกรณีใดๆก้อตาม คุณสามารถ ดึงเงินคืนกลับมาได้

- จากเวปไซต์ ในไทย มีหลายเวปมาก ไทยสกูตเตอร์  แพนทาวน์ Facebook หรือเวปร้านค้าที่เปิดสำเร็จรูป ซึ่งก้อเป็นคนไทย นำเข้ามาขายเอง

- สวนจตุจักร ,, ตลาดรถไฟ ,, ตลาดรัชดา ,, ตลาดโรงเกลือ (อันนี้ระวังของปลอมเยอะมาก)

โดยประมาณ มีเท่านี้ ครับ และส่วนใหญ่ คนขายจากต่างประเทศมีอยู่ไม่กี่เจ้าครับ


คราวนี้ มาว่ากันถึง ข้อดี ข้อเสีย ระหว่าง ซื้อของเอง จากต่างประเทศ ผ่านเวปไซต์ต่างๆ (ซึ่งก้อเป็นวิธีเดียวกับ พ่อค้าในประเทศไทย หลายๆคน)


ข้อดีคือ คุณอาจจะไม่ต้องผ่าน พ่อค้าในไทย ที่ซื้อมาแล้วบวกเพิ่มอีกที จึงทำให้ได้ราคาถูกกว่า แต่ข้อเสีย คุณอาจจะต้องโดนเสียภาษี นำเข้า และ อาจจะเสี่ยง โดนฝรั่งหรือญี่ปุ่นโกง ไม่ส่งของ ต้องเสียเวลา ในการแก้ปัญหาเอง และที่สำคัญ หากเราดูไม่เป็นดูไม่ขาด อาจจะซื้อพลาด เป็นของจีน หรือของปลอมได้  รวมไปถึง หากซื้อมาแล้วพลาดเรื่องไซต์เท้าเรา ดันใส่ไม่ได้ คืนของไม่ได้ แต่ถ้าซื้อกับ พ่อค้าในไทย เราสามารถคุยและเปลี่ยนคืนได้




แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ซื้อจากต่างประเทศ เราไม่เห็นของจริง ไม่มีโอกาสได้ลอง ไม่สามารถต่อรองราคาได้ เท่ากับ ที่เรา เลือกซื้อจากคนไทย มีปัญหาเปลี่ยนคืนได้ คุยกันภาษาไทย ไม่ยากอยู่แล้ว แต่ถ้า ชอบที่จะ บิด ประมูลเอง ได้อารมณ์ได้สะใจ และได้เลือกของชิ้นเดียวกัน กับ พ่อค้าในบ้านเรา ก่อนจะถูกซื้อมาขายอีกที ก้อทำได้เองเลยครับ


วันนี้ มาบอกเล่า เกี่ยวกับ การหาซื้อ Converse Made in USA กันคร่าวๆ ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง เผื่อจะเป็นไกด์นำทางให้เพื่อนๆได้ไม่มากก้อไม่น้อยครับ


ตั้ม - Motor Classic Shops

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

ฝากข้อคิด และ ข้อความ ถึงใครบางคน เอ...หรือหลายๆคนดีน๊า



ฝากข้อคิด และ ข้อความ ถึงใครบางคน เอ...หรือหลายๆคนดีน๊า

การที่ไม่ชอบผม เกลียดผม หรือคิดในแง่ร้ายกับผม ผมไม่ซีเรียสอยู่แล้วครับ แต่การที่ไม่ชอบในตัวผม แล้ว แต่กลับอยากได้ของหรือสินค้าที่ผมมี แล้วไม่กล้ามาซื้อเอง ให้คนอื่นมาต่อรองราคาให้บ้าง มาขอซื้อให้บ้าง แต่ไม่ให้บอกว่าใครให้มาซื้อ ทำตัวลักษณะเหมือนเกลียดตัวกินไข่ ก้อไม่ปาน

ผมคงต้องขอบอก พวกคุณๆทั้งหลายเลยว่า อย่าคิดว่าผมไม่รู้ เพราะคนที่บางทีคุณไหว้วานเค๊ามาซื้อ เค๊าอาจจะบอกผม จนสิ้นไส้ก้อได้ แต่จริงๆแล้วผมไม่ใคร่จะรู้อยู่แล้วครับว่า ใครจะซื้อ หรือใครจะอยากได้ เพราะผมถือว่าได้ขาย ก้อเพียงพอแล้ว ผมเปิดร้านแบบสาธารณะ เปิดใจกว้าง ไม่เคยแบ่งแยกว่า ขายใคร ไม่ขายใคร ไม่เคยคิดกีดกัน ของซื้อของขาย ผมได้ขายซะอีกยิ่งเป็นเรื่องน่ายินดี

แต่พวกคุณต่างหากที่คิดในแง่ร้าย และคิดไปเองด้วยว่า ต้องเป็นอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้ ไปทำให้เป็นเรื่องวุ่นวาย เพียงเพราะคุณเหม็นหน้าผมบ้าง อิจฉาผมบ้าง ทั้งๆที่บางที พวกคุณยังไม่เคยเข้ามาสัมผัส กับ นิสัยจริงๆของผมเลยด้วยซ้ำ บางราย ได้แต่ฟังคนอื่นเค๊าเล่า ก้อพาลเกลียดผมไปซะแล้ว ไปฟังคนที่อิจฉาผม ไม่อยากให้ผมได้ดี ใส่ร้าย จนเกลียดผมไปโดย ที่ยังไม่ได้มีโอกาส คุยกันเป็นจริงๆจัง พอฟังมากๆ พอมีโอกาสได้พบหน้ากันก้อกลายเป็นเหม็น หน้าผม ไปโดยปริยาย

สำหรับคนที่ ยังไม่เคยคุย ได้คบค้าสมาคม กับผม แล้ว มีคนมาบอก ว่า ผมเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ พวกคุณลองมาเปิดใจ ดูแล้ว ก้าวเข้ามาคุยกันดูครับ เผื่อบางที ผมอาจจะนิสัยดีและน่าคบกว่า พวกกลุ่มคนที่ใส่ร้ายผมก้อได้ครับ  อย่าตัดสินคน โดยการฟังคำคนกลุ่มเดียว และมองกันที่ภายนอก ถ้าพวกคุณคิดว่า เป็นผู้ใหญ่ หรือมีสมอง ที่จะไตร่ตรอง ผิดถูก ชั่วดีครับ แต่ถ้าพวกคุณ จะเป็น คนโง่ หรือ ควาย ให้ คนบางกลุ่ม เสี้ยมที จูงไปทีนึง ก้อสุดแล้วแต่ ดีซะอีกจะผมได้ไม่ต้องมาเสียเวลาคบ หรือคุยกับ คนไม่มีสมอง

และสำหรับคน ที่ เกลียดผม ไม่ชอบผม ไม่รู้ว่าจะด้วยเรื่องใดๆก้อตาม ผมขอแยกประเภทให้นะครับ คือ หนึ่ง ประเภทที่ เกลียด ไม่ชอบ ผม เพราะอิจฉา ที่มัน ขายดี กิจการโตไว มีของเยอะ รถเยอะ แล้วพยายาม พูดยุยง ให้คนอื่นๆ เกลียดผม

สอง ประเภทที่ ผิดใจ ขัดใจ ที่ผม ไม่ยอมตามใจ หรือ พูดจาไปผิดหู กริยา ผิดตา  จนพาลกลายมาเกลียดชัง  สาม ประเภท เคยเป็นญาติพี่น้อง ที่ รวมหัวกันโกง ผม ขโมยของผม เพราะผมไว้ใจ เลยเสียรู้ ได้จากผมไปเยอะ ผมดูแล เอ็นดู ช่วยเหลือ ทุกอย่าง ให้ทุกอย่าง แต่ยังโลภ ไม่พอ ยังอยากจะได้ อยากมี แต่ไม่อยากทำงานหา ก้อเลย ทรยศ ความไว้ใจที่ผมมีให้ กับญาติพี่น้อง และพอผมจับได้ และตัดขาด ก้อ หาทาง พูดให้คนอื่นๆ เกลียดผมและเล่าเรื่องไม่จริง รวมไปถึงแต่งเรื่อง ไม่พูดเรื่องจริงให้คนอื่นๆฟัง

แต่ไม่ว่าจะประเภทไหนๆก้อตามแต่ ผมเองไม่เคยใส่ใจ ติดใจ หรือ มีเวลามานั่งคิดอิจฉา ริษยา ใครๆทั้งนั้น แต่พวกคุณกลับ ให้คนอื่นๆ มาแอด Friend เพื่อจะดูข่าวคราว ความคืบหน้าผมบ้าง ดูความเคลื่อนไหวผมบ้าง ขอบอกเลยนะครับ ผมรับแอดทุกคน ต่อให้ผมรู้ว่าเป้นคนที่ไม่ชอบผมมาขอแอด ผมก้อจะรับอย่างแน่นอนครับ


ในเมื่ออยากรู้ ความเป็นไป สถานะ ต่างๆของผม ผมก้อจะอัพเดท ให้พวกคุณๆรู้สมใจ กันเลยทีเดียว จะโชว์ให้คุณที่ริษยา ผม  ในเมื่ออยากจะ จะจัดให้กันแบบเต็มอิ่มครับ ว่าผมมีมากมายแค่ไหน และกิจการผมรุ่งเรือง แค่ไหน  แล้วพวกคุณเอง ต่างหาก ที่จะแพ้ภัยตัวเอง ยิ่งคุณอยากให้ผมตกต่ำมากเท่าไหร่ ยิ่งคุณริษยา ผมแค่ไหน สิ่งเหล่านี้ มันจะเป็นเชื้อไฟ ไปเผาไหม้ใจคุณเอง ทั้งหมด จนคุณจะตกต่ำและย่อยยับ ไปโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ด้วยซ้ำ

ส่วนตัวผมเอง ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เห็นความสำเร็จของคนอื่นๆ เป็นไอดอล อิจฉา แต่ไม่ริษยา จะชื่นชม และเอาเยี่ยงอย่าง ดีใจกับคนที่ประสบความสำเร็จ  ไม่เอาเวลามาจมปรักอยู่กับสิ่งที่พวกคุณกำลังทำกันอยู่หรอกครับ นี่แหละคือข้อแตกต่างว่า ทำไม คนเรา ถึงมีไม่เท่ากัน และ ประสบความสำเร็จได้ไม่เหมือนกัน มันอยู่ที่ จิตใจ และสันดาน นอกเหนือไปจาก ความสามารถครับ

สุดท้ายนี้ ฝากไปถึง คนอื่นๆ หรือใครก้อตามที่ได้เข้ามาอ่านนะครับ ว่า อย่าตัดสินผม เพียงแค่ ฟังคำคนอื่นๆมา ถ้าคุณไม่ได้มาสัมผัส มารู้จัก กับผม ถ้าผมเลวร้าย หรือไม่ดีอย่างที่คนบางกลุ่มกล่าวหาแล้วนั้น ในทางกลับกัน ผมคงไม่มี เพื่อนพ้อง มากมาย หรือผู้ใหญหลายๆคนที่ให้ความเอ็นดู สนับสนุน ผมในเรื่องต่างๆ และ ร้านผมคงไม่มีลูกค้า มากมายขนาดนี้ครับ ลองคิดในมุม กว้างๆ แล้วเปิดใจ เดินเข้ามาคุยกันครับ ผมพร้อมจะเป็นเพื่อนกับทุกๆคน

สิ่งที่อยากจะฝากอาจจะยาวไปสักนิด แต่ ก้ออกมาจากใจที่อยากจะบอก บางครั้งผมอาจจะเรียงคำพูดได้ไม่เหมือนที่ใจคิด แต่ก้อดีกว่าไม่ได้ ระบายมันออกมาครับ

ขอบคุณคนที่ยังรักและเข้าใจผมเสมอมา ทุกๆคนด้วยนะครับ

ตั้ม - Motor Classic Shops

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

เมื่อนึกถึงตำนานรองเท้า Converse คุณจะนึกถึงอะไร?



แน่นอน คงจะเป้นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ Chuck Taylor
            รองเท้าทรงผ้าใบหัวยางทรงเรียบง่ายที่รู้จักกันในนามว่า “All Star“ นั้นเกิดขึ้นบนโลกนี้ครั้งแรกเมื่อปี 1917 โดยชายหนุ่มที่ชื่อว่า  Marquis Converse เจ้าของโรงงานทำรองเท้าเล็กๆ Converse Rubber Corporation ในรัฐ Massachusetts สหรัฐอเมริกา ครั้งแรกนั้นมันกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นรองเท้าสำหรับเล่นบาสเก็ตบอล และถือเป็นคู่แรกของโลกอีกด้วย ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้รับความนิยมซักเท่าไหร่ จนกระทั่ง Charles H. "Chuck" Taylor หรือที่รู้จักกันในชื่อ Chuck Taylor  (ผู้ชายที่ส่วมเสื้อกล้ามยืนท่าระเบียบพักบนป้ายของรองเท้า Converse All Star นั่นเอง) นักบาสเก็ตบอลระดับ High School ของโรงเรียน Akron Firestones ได้นำไปสวมใส่ในปี 1918 ทำให้บรรดานักบาสเก็ตบอลเริ่มรู้จักกับรองเท้าคู่นี้มากขึ้น และเขาก็ได้เข้ารวมทำงานกับ Converse ในปี 1921

           ต่อมาในปี 1923 Chuck Taylorได้ปรับปรุงรองเท้า Converse ให้เหมาะกับการใส่เล่นบาสเก็ตบอลมากขึ้น โดยเปลี่ยนมาใช้ผ้าใบที่มีความยืดหยุ่นเพื่อป้องกันข้อเท้า และตั้งชื่อให้กับมันว่า “All Star” พร้อมกับติดโลโก้รูปดาวและชื่อของเขาไว้ที่ข้อเท้าด้านใน จนทำให้ทุกคนรู้จักรองเท้ารุ่นนี้ในนาม Converse All Star Chuck Taylor และกลายเป็นรองเท้ายอดนิยมในยุคนั้นไปเลย
           ในช่วงแรก Converse All Star Chuck Taylorนั้นทำออกมาเพียง 2 สี คือ สีดำและสีขาว แต่เนื่องจากได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในปี 1966 Converse จึงตัดสินใจทำ All Star ในสีต่างๆ ตามคำเรียกร้องของลูกค้า และได้ถูกสวมใส่จนกลายเป็นแฟชั่นที่มาแรงสุดๆ อีกทั้งวัสดุที่ใช้ทำก็มีให้เลือกมากขึ้น เช่น หนังแท้ หนังแก้ว หนังกลับ ผ้ายีนส์ และผ้าพิมพ์ลายต่างๆ นอกจากนั้นยังมีการทำทรงของรองเท้าเพิ่มขึ้นอีก 2 ทรง คือ แบบ Low cut (หุ้มส้น) และ knee-high (หุ้มแข้ง) บ้างรุ่นก็มีการใช้เทคนิคแปลกๆ เช่น การใช่ยางยืดแทนการใช้เชือกรองเท้า และด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็ได้ทำให้ Converse บุกเข้าสู่ตลาดแฟชั่นอย่างเต็มตัว  ซึ่ง Chuck Taylor ก็มีส่วนร่วมในการออกแบบมาโดยตลอดจนกระทั่งปี 1969 ที่เขาจากโลกนี้ไป
            หลังการจากไปของ Chuck Taylor Converse ก็ได้นักบาสเก็ตบอลซูเปอร์สตาร์คนใหม่มาร่วมงานด้วย Julius Erving หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า “Dr. J” นักบาสเก็ตบอลที่ดังมากๆ ในยุคนั้น และได้ใส่ Converse All Star เช่นเดียวกับ Chuck Taylor จนโด่งดังและได้ออกรองเท้ารุ่น Pro model ของตนเองในปี 1976       
Sex Pistols ต่างเลือก Converse เป็นรองเท้าสำหรับใส่เล่นคอนเสริต์ จนวัยรุ่นพังก์ร็อคต้องหามาใส่เป็นเครื่องแบบไปเลย เรียกได้ว่า Converse All Star กลายเป็นของสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวพังก์ร็อคไปแล้ว rockabilly และมาฮิตสุดๆ ในยุค 70 กับแฟชั่นแบบพังก์ร็อค ที่คนดังอย่าง Ramones นอก จาก Converse จะทรงอิทธิพลในวงการกีฬาแล้ว ยังมีอิทธิพลมหาศาลต่อวงการแฟชั่นและดนตรีอีกด้วย Converse ถูกสวมใส่โดยเหล่านักดนตรีตั้งแต่ยุค , The Clash และ


            แม้กระแสแฟชั่นและดนตรีจะเปลี่ยนไป แต่ Converse All Star ยังคงได้รับความนิยมอยู่และกระจายมาสู่ทวีปเอเชีย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่นิยม Converse All Star เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นผลิตรุ่นพิเศษต่างๆ มาเพื่อขายที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นที่นำกลับมาทำใหม่ หรือไม่ก็ออกแบบที่ญี่ปุ่นเอง
          ในบ้านเราก็เป็นอีกประเทศที่นิยม Converse All Star มาก เพราะประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก จึงส่งให้ราคาไม่แพงมากเหมือนที่อื่น แถมยังคุณภาพดีอีกด้วย คนไทยจึงนิยมใส่กันมาก ประกอบกับในระยะหลัง Converse ไทยเริ่มมีการออกแบบให้เข้ากับแฟชั่นมากขึ้น จึงทำให้มีแฟนๆ เพิ่มมากขึ้นอยู่เรื่อยๆ


              และที่เล่ามาทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของเรื่องราวความเป็นมาก ว่า 100 ปีของรองเท้า Converse All Star ซึ่งถ้าให้เล่าทั้งหมดคงต้องใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 100 หน้าแน่ๆ เอาเป็นว่าอย่างน้อยคุณก็ได้รู้ซักทีว่าชายหนุ่มนักกีฬาที่ป้ายรองเท้า Converse All Star นั้นคือใคร
ขอขอบคุณ chimneychannel.com ด้วยครับ สำหรับข้อมูลดีๆ
ตั้ม - Motor Classic Shops