บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เรื่องเล็กๆ แต่คิดให้ใหญ่


การมีรองเท้าหลายคู่ของผม ถึงแม้ ผมจะสามารถใส่ได้แต่เพียงครั้งละคู่เท่านั้น แต่ผมสามารถ เลือกใส่ได้ทุกวัน เฉกเช่นเดียวกันกับเสื้อผ้า ผมสามารถใส่ได้เพียงวันละชุด แต่ก้อเลือกที่จะมีหลายๆชุด ไว้ใส่ในทุกๆวัน เหมือนกับคนอื่นๆทั่วไป

เสื้อยังมี หลายๆแบบ หลายๆลาย หลายสี และการที่ผมจะหา รองเท้า หรือเครื่องแต่งตัว อื่นๆ มาใส่ให้เข้ากัน หลายๆชิ้น นั่นไม่ใช่สิ่งผิด หรือมากเกินไป เพราะ ทั้งหมด ที่คุณเห็น เค๊าเรียกว่า  แฟชั่น และ สไตล์ ครับ คนเราทุกคนต่างมีมุมมอง และ แนวทาง ในการ ดำเนินชีวิต ไม่เหมือนกัน

มีหลายๆคนอาจจะมีแนวคิดที่ว่า คนเราไม่ได้มองกันที่รูปลักษณ์ภายนอก  บอกเลยว่า แนวคิดนี้ ผมไม่เคยเชื่อ ความจริงของสังคมคือการตัดสินคนที่รูปลักษณ์ ภายนอกก่อนเสมอ เพียงครั้งแรก ที่คุณหรือใคร มีโอกาสได้เจอกัน สิ่งแรก นอกเหนือจากหน้าตาแล้ว คุณมองที่อะไร?

ผมเชื่อว่า คนทุกๆคนมองที่การแต่งตัว หลายๆคน อาจจะมองแค่ว่า แต่งตัวเรียบร้อยมั๊ย สุภาพเข้ากันกับบุคลิกแค่ไหน แต่ก้อมีอีกหลายๆคน ที่ มองว่า เสื้อผ้า ข้าวของ เครื่องแต่งตัว ที่ใส่อยู่นั้น เป็นแบบไหน มีราคามั๊ย  แบรนด์อะไร

ต้องบอกก่อนว่า เรากำลังคุยกัน บน พื้นฐานของความจริง ไม่ได้มานั่งคุยกันแบบ สร้างภาพ ให้ออกมาดูดี ผมเป็นแค่ คนหนึ่งคนที่มี กิเลส ความอยากได้ บวกกับ ความทะเยอทะยาน รวมไปถึง การใส่ใจใน รสนิยม ด้วย เพราะฉะนั้น  ไม่ว่า การที่จะมีเสื้อผ้ากี่ชุด รองเท้ากี่คู่ แว่นกี่อัน หมวกกี่ใบ ผมว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดและแปลกอะไร

ยิ่งถ้า จะเป็นของแพงๆราคาสูงๆแล้ว นั้นต้องบอกแค่ว่า คนจะซื้อ มาใส่ จะหามาใช้ ควรดูกำลัง ความสามารถของตัวเองด้วย มีน้อยก้อค่อยๆซื้อ ค่อยๆเก็บ มีเยอะก้อซื้อเยอะได้ ไม่แปลก

แต่ ถ้าคิดว่า มีเงินน้อย แล้ว อยากได้แต่ไม่กล้าและไม่พยายาม หามา ผมว่า แปลก เพราะ คนเราควรมีความทะเยอทะยาน มีความฝัน ไม่ใช่เราจะเป็น พวกรายได้ต่ำ รสนิยมสูง แต่เราเป็นคนที่มีความฝัน มีความอยากที่จะพัฒนา และก้าวไปสู่อีกสังคมนึงเท่านั้น

เปรียบกับการใช้ชีวิต ถ้าคุณเคยอยู่แฟลต แล้วคุณไม่มีความฝัน หรือไขว่คว้าที่จะหาซื้อบ้านหลังเล็กๆสักหลัง เพราะกลัว จะโดนด่าว่าเป็นพวกหวังสูง แล้วคุณก้อยัง คลุกคลี กับขี้เมาใต้แฟลต ขี้ยาแถวนั้น วัยรุ่นจับกลุ่มคุยข้างบันได คุณก้อจะมีสังคม แค่แบบนั้น แต่ถ้าคุณลอง กล้าที่จะดิ้นรนหา สังคมใหม่ๆ คุณอาจจะเจอ สังคมและชีวิตที่ดีขึ้นแน่นอน

แต่ถ้าคุณลองมีความทะเยอทะยาน มีความฝัน และความตั้งใจ ศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง คิดที่จะออกมาจากสังคม เก่าๆ แล้ว ถีบตัวเองออกมาให้สูงขึ้น ด้วยการมีความฝัน แล้วทำให้ได้ ผมเชื่อว่า มันจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า ที่คุณจะมานั่งแคร์ คำใคร เพราะไม่ว่า คุณจะแคร์และเก็บไปกังวลใจมากแค่ไหน คนพวกนั้น มันก้อยังคิด ติ เตียนอยู่ดี

คนทุกคน มีความคิดอ่าน และมุมมอง ไม่เหมือนกัน แค่การคิดใส่เครื่องตกแต่ง หรือซื้อรองเท้าสักคู่ คนเรายังคิดได้ไม่เหมือนกัน  เหล้าหนึ่งขวด แท้ๆ คนห้าคนยังกิน ไม่เหมือนกันสักแบบ นับประสาอะไร กับมนุษย์ จะให้มาตรงใจกันซะทุกอย่าง

เป็นในสิ่งที่เราอยากเป็น ทำในสิ่งที่เราอยากทำ แค่ ทำแล้วไม่สร้างปัญหา หรือเดือดร้อนกับสังคมส่วนใหญ่ก้อพอแล้ว จะไปหนักหัวใครบ้าง รกหูรกตาใครบ้าง ในคนส่วนน้อย ก้อช่างมันครับ



เหนือสิ่งอื่นใด สำหรับผม แล้ว ผมเป็นลูกคนจน และ การเป็นลูกคนจนของผม มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว แต่ผม จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้ ลูกของผม เป็นลูกคนรวยครับ

คนที่ไม่คิดเปิดใจ ปรับเปลี่ยน ทรรศนะติ ไปตามยุคสมัย หรือเปิดใจให้กว้างยอมรับ ความเป็นจริงและสิ่งที่เปลี่ยนไปของสังคม คนนั้น นั่นแหละ ที่จะเป้นคนแปลก และ แปลก ไป โดยที่เค๊ายังไม่รู้ตัวเองด้วยครับ ว่า เค๊า กำลัง งมโข่ง อยู่ ในขณะที่เค๊านั้น มองว่าคนอื่นแปลก ตัวเค๊าเอง ก้อแปลกในสายตา คนที่คิดแบบพวกเราและผมครับ


ตั้ม - Motor Classic Shops

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ทะเบียนแท้ ทะเบียนเต็ม ทะเบียนกระดาษ คือ อะไร //เกร็ดเล็กๆกับ ใบอินวอยส์ และใบตัดเครื่อง

ผมเชื่อว่า มีหลายๆคนสงสัย และอยากรู้ เหลือเกินว่า ทะเบียนกระดาษแผ่นเดียว ทะเบียนโอนไม่ได้ ทะเบียนเต็ม มันคืออะไร

วันนี้ เรา จะมา ชี้แจงกันเป็น แบบๆ กันไปเลย เพื่อ ความเข้าใจ จะได้มีมากขึ้น


##มาดูกันเลยครับ##

- แบบ แรก เป็น ทะเบียนเล่ม แบบพับ ของกรมตำรวจ เป็นรุ่นแรกๆของเล่มทะเบียน เลขทะเบียน รถ จะเป็นแบบ ตัวย่อ จังหวัด และ ตามด้วยเลข 5ตัว  อย่างเช่น พบ 00065  หมายถึง จังหวัด เพชรบุรี  คันที่ 65  ด้านหน้า จะเป็น โลโก้ กรมตำรวจ ด้านหลังจะเป็นรายการ เสียภาษี

------------------------------


- แบบ ที่สองเป็น ทะเบียน แบบแผ่นกระดาษ ด้านหน้า เป็นรายละเอียด ผู้ครอบครอง ด้านหลังเป็น รายการชำระภาษี  อันนี้ ก้อยังอยู่ ในสังกัดของ กรมตำรวจอยู่นะครับ เลขยังเป็น แบบเดิม อยู่ แต่ในช่วงหลังๆ จะเริ่มเปลี่ยน มาเป็น เลขทะเบียนแบบใหม่ คือ อย่างเช่น กรุงเทพมหานคร 1ก-1012 แต่ ยังคงเล่มทะเบียน เป็นแบบเดิม อยู่







------------------------------


แบบที่สาม เป็นแบบ สมุดเล่ม มีขนาด กว้าง13.5CM ยาว 20CM. อันนี้เราจะเห็นกันบ่อย ยังมีให้เห็นกันอยู่เยอะ ถ้า เจ้าของรถคนไหนที่ยังไม่ได้ ไปโอน ก้อจะยังถือสมุดเล่มนี้อยู่
------------------------------
แบบสุดท้าย เป็น เล่ม สีเขียว แบบปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก

ต้องบอกเลยว่า ทะเบียนทุกๆแบบ ไม่ว่าเราจะมีแบบไหน อยู่ในมือ เราสามารถ ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ ให้เป็นชื่อของเราได้ทั้งนั้น แต่ ทั้งนี้ ทั้งนั้น คุณต้องมี เอกสารต่างๆ (เข้าไปดูในบทความหน้าเกี่ยวกับ การโอนรถจักยานยนต์ ในบทความย้อนหลังของเราได้)

" คำว่า ทะเบียนกระดาษ " นั้น หมายถึงว่า คุณอาจจะมี เอกสาร เล่มทะเบียน แบบ หนึ่ง หรือแบบสอง อยู่ แล้วไม่มี ชุดโอน ดังจะเห็นบ่อยๆว่า มีผู้ขายที่ขาย รถ จะบอกว่า รถมีทะเบียน ทะเบียนกระดาษใบเดียว นั่นหมายถึง รถคันดังกล่าว มีเอกสารทะเบียน ตัวรถอยู่ แต่ไม่มีชุดโอน จากเจ้าของ ที่มีชื่ออยู่ในเล่ม

" คำว่า ทะเบียนเล่ม ภาษี เต็ม " นั้น หมายถึงว่า คุณอาจจะมี เอกสาร เล่มทะเบียน แบบหนึ่ง สอง หรือ สาม แต่ รายการชำระภาษีด้านหลัง เต็ม จนไม่สามารถ ต่อได้อีกเพราะ ไม่มีเอกสารเจ้าของชื่อตามในเล่ม หรือ อีกกรณี นึงคือ เจ้าของรถ หรือผู้ขาย มีการชำระ ภาษี เต็ม จำนวนทุกปี ไม่มีขาดต่อภาษี ก้อได้

" คำว่า ภาษีเต็ม พร้อมโอน " นั้นหมายถึง ว่า เหมือนกับด้านบน แต่ เจ้าของรถ มีเอกสารของเจ้าของรถชื่อตามในเล่ม

" คำว่า ทะเบียนไม่โอน " นั่น หมายถึงว่า เจ้าของรถ มีรถ ที่มีเล่มทะเบียน จะแบบใดๆก้อตาม แต่ไม่มีชุดโอน หรือเอกสารของเจ้าของที่มีชื่อตามในเล่มสมุดทะเบียน

" คำว่า ทะเบียน พร้อมโอน " นั่น ความหมายมันตามชื่ออยู่แล้ว
แต่มาระยะ หลังๆ คนเล่นรถเก่า แบบ เดิมๆแท้ๆเพื่ออนุรักษ์ ต้องระวังให้ดี ตอนจะซื้อรถ เพราะ ปัจจุบัน มีทั้งเด็กและ พ่อค้าหัวใส เอาทะเบียน รถรุ่นอื่นๆ ที่ไม่ตรงรุ่น มาแจ้งเปลี่ยนเครื่อง หรือ ไม่แจ้ง แต่ให้ถือทะเบียนที่มีเลขโครงตรงกับเล่ม แต่เครื่องไม่ตรง และ ทะเบียนที่ เลขโครงไม่ตรง แต่เลขเครื่องตรง เอามาพร้อมรถ และให้ผู้ซื้อถือแบบนี้ก้อมี และ ยังมี อีกมายๆ ที่พ่อค้าหัวใส จะทำ อย่างเช่น รถเป็นC100 เครื่องเวฟ แต่ ในเล่มทะเบียน เป็นของเวฟ  เวลาซื้อไป แล้วจะโอน ถ้าเจอ ขนส่ง ที่กินเงิน หน่อยก้อไม่เท่าไหร่ ถ้าเจอขนส่งไหน ที่ซื่อตรง เค๊ามองว่ารถรุ่นที่เอามาตรวจกับ เล่มทะเบียนมันคนละปีกัน ต่อให้ตัดแปะมายังงัย เค๊าก้อไม่ให้ผ่านนะครับ


ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องราว ข้อมูลคร่าวๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ หวังว่า จะได้ประโยชน์จากตรงนี้ไม่มาก ก้อไม่น้อยนะครับ ถ้าใครมีคำถาม หรือข้อมูล จะให้เรา บอกหรือบอกเรา ก้อบอกกันมาได้เลยนะครับ ยินดีครับ



อันนี้ เป็นอินวอยส์ นะครับ หลายๆคน อาจจะยังไม่รู้จักกับคำว่า รถอินวอยส์ คืออะไร หรือ ใบอินวอยส์ คืออะไร
ความหมายของ ใบอินวอยส์จริงๆก้อคือ ใบกำกับสินค้าครับ เป็นตัวที่ยืนยันว่า ได้ส่งสินค้าอะไรบ้า งมาให้ (ใบ invoice กับ สินค้าต้องตรงกัน)
ซึ่ง รายละเอียดใน Invoice ก็จะมี หมายเลขPO , หมายเลข Invoice , รายการสินค้า , จำนวนสินค้า, ราคาต่อหน่วย , รวมราคาทั้งหมด , ภาษีมูลค่าเพิ่ม , ชื่อผู้ส่ง(จำหน่าย) ชื่อผู้รับสินค้า(สั่งซื้อ)  Etc......


ซึ่ง ถ้าจะแยกเป็น 2ส่วน สำหรับ อินวอยส์รถจักรยานยนต์นำเข้า ต้องมีส่วนของ ตัวถัง แจ้งเลขครบถ้วน และ อีกส่วน หนึ่ง เป็นของเครื่อง และ ต้องมีใบตัดเครื่อง ที่จะต้องใช้ในการ จะนำเครื่องมาใส่ที่รถและ ไปแจ้งเปลี่ยนที่กรมขนส่ง (ดูตามรูปข้างล่างได้เลย สำหรับ ใบตัดเครื่อง ว่าหน้าตายังงัย)


ยิ่งถ้าเป็นรถ ใหญ่ๆ ตั้งแต่250CC. หลังจาก มีอินวอยส์แล้ว อาจจะต้อง ไป แจ้งที่สรรพสามิต เพื่อเสียภาษีอีกทีนึงด้วย เอาไว้โอกาส หน้าจะมาอธิบาย ในรายละเอียดลึกๆ




ตัวอย่างของใบ ตัดเครื่อง ที่ต้องใช้กับ ขนส่ง เพื่อ แจ้งเปลี่ยนเครื่อง


ตั้ม - Motor Classic Shops





วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จรรยาบรรณ ของร้านซ่อมรถ และ ช่างซ่อม ที่ควรรู้

เพื่อนๆ หลายๆคน ที่เล่นรถเก่า สะสมรถเก่า หลายๆท่าน คงอาจจะเคยประสบ กับ ปัญหา เกี่ยวกับร้านซ่อม หรือการซ่อมรถ เพราะรถเก่าๆ มักจะต้องเป็นของคู่กันกับ ร้านซ่อม บางคัน แทบจะเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง เลยทีเดียว



@@ วันนี้ เราจะลองมาคุยกันถึง ร้านซ่อม หรือช่างซ่อมรถ เกี่ยวกับ จรรยาบรรณ กันซะหน่อย @@




อยากจะบอกว่า กว่าเรา จะหารถ สวยๆ ถูกใจ สักคันนึง กว่าจะหาสภาพรถครบๆ กว่าจะหาเงินซื้อมันมาได้ ไม่ง่ายเลย ยากเย็นแสนเข็ญ อยู่แล้ว แถม พอหารถมาได้ ปัญหา ต่อไป คือ ต้องหาช่างซ่อมอีก เพราะบางครั้ง รถรุ่นเก่าๆ ยากที่จะบอกได้ว่า จะดีวันไหน เสียวันไหน หากรถคันนั้นๆ ยังไม่ได้ถูก รื้อทำ เก็บรายละเอียดใหม่ทั้งหมด แน่นอน ย่อมที่จะต้องเจอปัญหา เช้าโก้ เย็นแก้ ไม่จบไม่สิ้น

หากได้เจอช่างดีๆ ก้อดีไป หากไปเจอช่าง ที่ไม่รู้จริง มั่ว หรือคุยเก่งอย่างเดียว ก้อ แก้กันไม่จบสักที จนบางที แทบอยากจะเลิกเล่นกันเลยทีเดียว




ส่วนใหญ่แล้ว ปัญหา เกี่ยวกับร้านซ่อม หรือช่างซ่อม มีไม่กี่ประเภทหรอกครับ คนดีๆ เก่งๆ ก้อมีเยอะ คนที่ขี้โกง ก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน  เราลองมาแยกประเภท ช่างซ่อม กันดีกว่าเพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน


- ช่างประเภทแรกๆที่จะได้เจอ ได้เห็นกันบ่อยๆ คือ ช่างซ่อม ประเภท ขี้คุย ขี้โม้ เก่งไปหมด รู้ไปหมด แต่ไม่รู้ทำไม ซ่อมไม่จบ สักที อ้างนู่น อ้างนี่ ตลอด บางครั้ง รถเอาเข้าไปดีๆ มีปัญหาแค่ ไฟชาร์ตไม่ชาร์ต  เอาให้ทำ ทำไปทำมา สตาร์ทไม่ติด บอกตั้งเปลี่ยนฟิลคอยส์ (มัดข้าวต้ม) พอซื้อของแท้ใหม่ มาให้ สักพักบอก แผ่นชาร์ตก้อเสีย อ่ะ ก้อซื้อมาให้เปลี่ยน ทีนี้ บอก ของที่เราซื้อมาไม่ดี เสีย มันเลยไม่ติดซะงั้น ก้อถามไปว่า ตอนแรกมา ทำไมมันสตาร์ทติดได้ขี่ได้แต่ต้องชาร์ตแบต บ่อย เท่านั้น

เค๊าก้อตอบไม่ได้  ตอบได้แค่ว่า ตอนนี้มันไม่ติด  ให้เราไปหา อะไหล่มาใหม่ สองตัวแรกที่บอกไปและ คราวนี้ ให้เอา คอยส์หัวเทียนมาด้วย  (มันเกี่ยวกันมั๊ยเนี่ย กับระบบชาร์ตไฟ)  พอหามาประเคน ให้ทุกอย่าง สุดท้าย ช่างคนนี้ ก้อไม่สามารถ ทำให้มันดีได้ ช่างประเภท นี้ ก้อจะแนะนำ ให้เรา แปลง CDI. และเค๊า ก้อจะอ้างต่างๆนานา ว่า รถรุ่นนี้ มันไม่ดี มันรวน คนส่วนใหญ่แปลงกันหมดแหละ มีปัญหาตลอด อย่างนั้น อย่างโน้น  ช่างประเภทนี้ จะประมาณ ว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเอง ทำไม่เป็น ทำไม่ได้ แต่จะโทษอย่างอื่นๆตลอด

- ช่างประเภท ลัก แกะ ถอด สับ เปลี่ยน ช่างประเภทนี้ น่ากลัว รถเราไปดีๆ เจอช่างพวกนี้เข้าไป แทบกรี๊ด ต้องคอยระวังครับ ถ้าผิดสังเกตุ อย่าให้รถคลาดสายตา หรือถ้าดูแล้วไม่น่าไว้ใจ อย่าทิ้งรถข้ามคืน ให้ดี ควรมีการถ่ายรูป รถและอะไหล่ต่างๆ ซูมๆเก็บไว้ ต่อหน้า ช่าง ไว้เลย  และอย่าลืม อะไหล่ บางประเภท อยู่ด้านใน ตัวรถ ก้อต้องระวัง เช่นกัน

- ช่างประเภท ไม่ได้เปลี่ยนแล้วบอกเปลี่ยน ไม่แท้บอกแท้ เจออย่างนี้ ก้อ จิตตก เพราะถ้าเป็น อะไหล่ในตัวเครื่อง คนที่เอาไปซ่อมบางคนไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ หรือดูไม่เป็น อาจจะเสียรู้ได้ เพราะบางที ลูกสูบ เอย แหวนเอย ที่เราเข้าใจว่ามันหลวม หรือดัง อะไหล่ชิ้นอื่นๆที่เราคิดว่ามันเสีย แต่เวลาแกะ ออกมาแล้ว มันเสีย หรือไม่เราก้อไม่รู้ ช่างจะใส่ของใหม่ หรือ ของแท้ ให้ เราก้อไม่รู้ เอาของเทียม มาใส่ให้เราแล้วบอก ราคา เป้นของแท้ ก้อมีถมไป

- ช่างประเภท ผัวทำ แต่เมียเก็บตังส์ อันนี้ ก้อน่ากลัว น่าเป็นห่วง เพราะบางที คุณเมีย ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ว่าเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน บางที ก้อคิดแพงเกิน บางทีก้อ เขียนเกิน บ้าง อะไรบ้าง 



- ช่างประเภท พูดจาดี มาดดี วางตัว น่านับถือ เวลา ก่อนทำ ตอนรับรถ โอ้โห พูดจา นิ่มนวล ชวนฝัน ต่างๆนาๆ พอเอาเข้าจริงๆ ไม่ทำบ้าง ดองงานนานไป อ้างนู่นอ้างนี่ พอเผลอ เข้าหน่อย ปิดร้านหายเงียบ ย้ายร้านหนี ซะงั้น ทุกวันนี้ก้อมี ต้องระวังกันไว้นะครับ


จริงๆ แล้ว ช่างมีหลายแบบ หลายประเภท มีทั้ง ดี และไม่ดี ปะปนกันไป พวกที่ทำตัวไม่มีจรรยาบรรณ ก้อเยอะ ช่างพวกนี้ จะทำให้นักเล่น อย่างเราๆ หมดกำลังใจ ท้อใจ ยังงัย ก้อได้แต่ หวังว่า บทความอันนี้ จะช่วย ฉุกคิดให้เพื่อนๆ ได้ระวัง กันไว้หน่อยนะครับ



ขอบคุณภาพประกอบ จาก พิพิธภัณฑ์ Suzuki ที่ญี่ปุ่น ด้วยนะครับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ เนื้อเรื่องในบทความเลยฮ่าๆๆ



ตั้ม - Motor Classic Shops

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เบอร์ ซิลกันน้ำมันเครื่อง ของรถ Honda รุ่น C92 C95 และ CD125

เห็นว่าเป็นรุ่น ยอดนิยม คนรักเยอะ คนชอบแยะ เลยแยก ออกมา จัด ต่างหากเลย

!!! Honda C92 C95 !!!

- ซิล คลัทช์   8 x 25 x8

- ซิล เสตอหน้า  20 x 47 x 7

- ซิล เกียร์  12 x 25 x 4.5  ใช้2ตัว

- ซิล สตาร์ท  14 x 24 x 8

- ซิล จานไฟเล็ก 18 x 27หรือ29 x 5

- ซิล จานไฟกลาง 18 x 38 x 5

- ซิล จานไฟใหญ่  28 x 38 x 5

!!! Honda CD125 !!!

- ซิล คลัทช์   8 x 25 x8

- ซิล เสตอหน้า  20 x 47 x 7

- ซิล เกียร์  12 x 25 x 4.5  ใช้2ตัว

- ซิล สตาร์ท  14 x 24 x 8

- ซิล จานไฟเล็ก 18 x 27หรือ29 x 5

- ซิล จานไฟใหญ่  28 x 38 x 5.5



** น็อตฝากระเป๋า ซ้าย/ขวา  C92 C95 ยาวเริ่มจาก เหล็กถึง ปลาย 62MM. สองข้าง ยาวเท่ากัน


เดี๋ยว เอาไว้ มี อะไรที่เกี่ยวกับ C92 C95 จะมาเพิ่มเติมให้ในนี้อีกทีละกันครับ เพราะดูรายละเอียดมันยังน้อยๆ 

เบอร์ ซิลกันน้ำมันเครื่อง ของรถ Honda รุ่นต่างๆ

     หลังจาก ที่ ได้พบ ได้เห็นมา เกี่ยวกับปัญหา ของเพื่อนๆ หลายๆคนเลยทีเดียวก้อว่าได้ เวลา แกะเครื่องแล้ว ต้องการเปลี่ยนซิล และ ไม่รู้เบอร์ซิล หรือ ตอนแกะมาแล้ว ดูเลขไม่เห็น ทำให้ยากต่อการ หาซื้อ มาใส่รถ วันนี้ เลย เอาเบอร์ ซิล มาบอกเพื่อนๆ ซะหน่อย จะได้เป็นประโยชน์กับคนที่มีรถ แล้วหาซิล ไม่ได้ จะได้หาง่ายขึ้น

!!! Honda CB72 - CB77  C72 - C77 !!!

- 22 x 26.2 x 9.8  [ Part No. 91205 - 200 - 000 ]

- 16 x 28 x 7       [ Part No. 91204 - 259 - 000 ]

- 14 x 25 x 7       [ Part No. 91202 - 250 - 000 ] ใช้ 2 ตัว

- 8 x 21 x 6         [ Part No. 91205 - 259 - 000 ]

- 12 x 25 x 4.5    [ Part No. 91204 - 200 - 000 ]

- 30 x 62 x 8       [ Part No. 91203 - 259 - 000 ]

- 32 x 65 x 6.5    [ Part No. 91201 - 259 - 000 ]

- 20 x 30 x 5       [ Part No. 91208 - 259 - 000 ]

ซิล โช๊คหน้า CB72 CB77 ใช้ขนาดเบอร์ 33 x 43 x 9.1


!!! Honda C100 C102 C105 C110 !!!

- 17 x 34 x 7       [ Part No. 91204 - 001 - 000 ]


- 11.6 x 24 x 10  [ Part No. 91203 - 001 - 020 ] ใช้2ตัว

- 17 x 34 x 7       [ Part No. 91204 - 001 - 000 ]


!!! Honda CB100 CB125S XL100 SL100  SL125 !!!

- 16 x 28 x 7       [ Part No. 91204 - 259 - 000 ]

- 14 x 28 x 7       [ Part No. 91206 - 286 - 013 ]

- 15 x 25 x 7       [ Part No. 91202 - 107 - 000 ]

- 20 x 34 x 7       [ Part No. 91201 - 030 - 000 ]

         

!!! Honda CG110 CG125 JX110 JX125 !!!

- 16 x 28 x 7       [ Part No. 91204 - 259 - 000 ]

- 22 x 35 x 7       [ Part No. 91216 - 397 - 005 ]

- 20 x 34 x 7       [ Part No. 91201 - 030 - 000 ]

- 14 x 28 x 7       [ Part No. 91206 - 286 - 013 ]

!!! Honda CB125 CL125 K3-K5 !!!

- 28 x 47 x 7      [ Part No. 91202 - 246 - 003 ]

- 12 x 25 x 4.5   [ Part No. 91204 - 200 - 000 ] ใช้3ตัว

- 22 x 26 x 29 x 8 [ Part No. 91205 - 200 - 000 ]

- 15 x 24 x 5     [ Part No. 91201 - 246 - 003 ]

- 4.8 x 14.5 x 4 [ Part No. 91211 - 286 - 003 ]

- 14 x 24 x 8    [ Part No. 91203 - 200 - 000 ]

- 8 x 25 x 8      [ Part No. 91206 - 200 - 000 ]

ชักตาลาย ใครมีรถ รุ่นไหน จดกันไว้ save ไว้ได้เลยนะครับ ไม่หวง ครับ แต่ ยังงัย ฝากกด Like share ให้บ้างนะครับ มาต่อกันเลย

!!! Honda CB175 CD175 CB160 !!!

- 20 x 52 x 9          [ Part No. 91201 - 216 - 000 ]

- 14 x 24 x 5          [ Part No. 91202 - 216 - 000 ]

- 12 x 18 x 4.5       [ Part No. 91201 - 235 - 000 ]

- 12 x 25 x 4.5       [ Part No. 91204 - 200 - 000 ] ใช้2ตัว

- 20 x 35 x 5.5       [ Part No. 91204 - 200 - 000 ]

- 20 x 26 x 29 x 8  [ Part No. 91205 - 222 - 000 ]

- 8 x 25 x 4            [ Part No. 91206 - 216 - 000 ]

- 20 x 26 x 4          [ Part No. 91205 - 216 - 000 ]

!!! Honda CB250 CB350 !!!

- 22 x 35 x 6         [ Part No. 91202 - 286 - 023 ]

- 14 x 28 x 7         [ Part No. 91206 - 286 - 013 ]

- 12 x 25 x 4.5      [ Part No. 91201 - 283 - 001 ]

- 32 x 36 x 39.5 x 8 [ Part No. 91210 - 286 - 003 ]

- 18 x 29 x 7         [ Part No. 91201 - 286 - 003 ]

- 8 x 34 x 8           [ Part No. 91203 - 292 - 003 ]

- 33 x 52 x 7         [ Part No. 91205 - 286 - 003 ]

- 4.8 x 14.5 x 4    [ Part No. 91211 - 286 - 003 ]

เดี๋ยว เราไปต่อ ตอน2 กันดีกว่าเนอะ ตาลาย หมดแล้ว ยังงัย ได้แต่หวังว่า มันจะมีประโยชน์ กับ เพื่อนๆ ไม่ได้มาก ก้อดีกว่าไม่ได้เนอะ ครับ 



ตั้ม - Motor Classic Shops

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สิ่งที่ควรทำ และ รู้ หลังจากได้รถ ที่อยากได้ มาสมใจแล้ว

อันนี้ เราจะมาต่อกัน กับ บทความ ที่ว่าด้วยการแนะนำ ก่อนจะซื้อรถ

บทความนี้ จะว่ากันถึง หลังจากที่เราได้รถมาแล้ว ควรจะต้องทำอะไร กับมันต่อไป ซึ่งเป็นที่แน่นอน เกือบร้อยละ 80 เลยทีเดียว ที่ เจ้าของใหม่ จะทำคืออยากให้มันสวย ซึ่งจริงๆแล้ว บอกเลยว่ามันไม่ถูกค้องสักเท่าไหร่กับแนวคิดนี้ เพราะ 


นอกจาก มันจะต้องใช้งบประมาณเยอะ หลังจากที่พึ่งจะเสียเงินก้อนโต ไปกับการ ให้ได้ รถมา เสียเงินเยอะไม่พอ เราซึ่งเป็นเจ้าของใหม่ ยังไม่รู้อะไรเลย ว่า ของเดิม ของแท้ ในรถเรา นั้น  มีอยู่มากน้อยเพียงใด เครื่องยนต์ และระบบไฟเป็นยังงัยบ้าง เพราะ ฉะนั้น จงอ่านต่อ อย่าพลาด


สิ่งที่ควรทำ จะขอบอกเป็นขั้นตอน และอธิบายรายละเอียดไว้อย่างคร่าวๆ ว่า อย่างไรบ้าง


- สำหรับภายนอก ให้ ตรวจสอบ และ เช็ค สมรรถนะ ในการใช้งาน อย่างเช่น ล้อ วงล้อ ซี่ลวด สายเบรค ยางหน้า หลัง ยางใน สายเบรค สายคลัทช์ หลอดไฟหน้า หลัง ไฟเลี้ยว ว่าอยู่ในสภาพไหน มีอันไหน เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตราย หรือ เสียระหว่างทางได้ง่าย ให้เปลี่ยนซะ

- แกะหัวเทียนออกมาดู ว่า ประมาณไหน สีอะไร ถ้ารถ4จังหวะ หัวเทียนแฉะ ให้คิดไว้ว่า เครื่องอาจจะหลวม หรือ ฝาสูบเริ่มหลวมรั่วบ้างแล้ว ถ้าหัวเทียน แห้ง เป็นสีอิฐ ถือว่าโอเค และถ้ารถ2จังหวะ หัวเทียน แห้ง ไป นั่น ปั๊มออโต้ลู้ปอาจมีปัญหา แต่ถ้าแฉะไป ให้ระวังเรื่องเครื่องหลวมหรือ อาจจะผสมออโต้ลู้ป เยอะไป

- หลังจากนี้ ให้ลองขี่ใช้งาน ดู แล้วสังเกตุดูว่า อาการ เป็นอย่างไร ไฟชาร์ตมั๊ย เครื่องมีสะดุด กระตุกอะไรบ้างมั๊ย เพื่อจะได้รู้ถึง ความชัวร์ของรถเราว่ามันจะไปกับเราได้ไกลแค่ไหน


- ถ้าผ่านขั้นตอนต่างๆมาบ้างแล้ว คราวนี้ ให้ตามเก็บอะไหล่ ที่รถเราขาดไม่มี ไม่ดี ไม่ครบ ให้ค่อยๆตามหา ตามซื้อไป อย่าไปรีบ และระหว่างตามหา ให้ ศึกษาไปด้วยว่า แท้เป็นงัย เดิม เป็นงัย ค่อยๆเรียนรู้ไป รถคันนึง ใช้เวลาเยอะ เพราะฉะนั้นอย่ารีบร้อน

- พอเก็บอะไหล่ ไปบ้างแล้ว ในส่วนที่ขาด หรือเสีย ก้อมาดูว่าอะไรที่จะเป็น อย่างเช่น ถ้าได้ ขาตั้งคู่มา ก้อให้ลองใส่ เลย เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้ ว่า รถเรา โครงสึก บู๊ธ สึก แค่ไหน ตั้งแล้วรถเอียงมั๊ย ตรงมั๊ย พอวันหน้า จะเอาไปทำสี จะได้บอกรายละเอียดกับช่างได้ จะได้ไม่ต้องมาแก้ไขกันตอน ทำสีเสร็จแล้ว  หรืออะไหล่ตัวอื่นก้อตาม แต่ พวกชุดสายต่างๆ ไม่ว่าจะสายไฟ หรืออะไรก้อตาม ซื้อมาเก็บไว้ก่อนได้ ไม่จำเป็นต้องใส่เลย รอ วัน รื้อทำสี ทีเดียว ค่อยใส่ เอาเป็นว่า ใช้วิจารณญานเอาเอง ละกัน ว่าจะใส่ จะเปลี่ยนไม่เปลี่ยนอะไรก่อน

- พอได้ จนครบพอสมควรแล้ว หลักๆต่างๆหามาได้ครบแล้ว ก้อให้มามองถึงความสวย ความงามกันบ้างหล่ะคราวนี้ อะไหล่ ที่จะเป็นตัวเสริมความหล่อ อย่างโลโก้ หรือ อะไหล่ ที่มันสามารถ หามาเติมได้ตอนหลัง โดยใส่ไม่ลำบาก ถ้ายังหาไม่ได้ ไม่เป็นไร ทำให้สวยก่อนได้

สำหรับคนงบ น้อย จะให้ชุบโครเมี่ยม ตูมๆ เลย คงหนัก แนะนำ ให้ ไล่ ไปทีละหน่อย ตามเงินที่หามาได้ เริ่มชุบ ปัด จากล้อก่อนเลย เพราะ วันหลัง จะรื้อทำนู่นนี่ ล้อจะได้ไม่ต้องขึ้นใหม่  ส่วนอะไหล่ ตัวอื่นๆ ก้อไล่ชุบ จากตัวที่แกะง่ายๆ เล็กๆน้อยๆไป เรื่อยๆ ฝาเครื่องยังไม่ต้อง เดี๋ยวไปแกะตอน ยกเครื่องลง รื้อทำสีนู่น  เพราะไล่ชุบจนเกือบจะครบ ถ้ามีตังส์เหลือหน่อย ก้อทำสีเอาครับ แค่นี้ ก้อ จบ ส่วนที่เหลือจะทำ จะแต่งยังงัย คิดเอาเอง

สำหรับคนพอมีงบ หน่อย แนะนำให้ทำสีเดียว เลย ทั้งชุบ และทำสี เก็บให้หมด อย่าเสียดาย เล็กน้อย เพราะตอนหลัง ถ้าจะมารื้อชุบ หรือทำสีอีก รถจะโทรม และ เป็นรอย แถมเสียค่าแรงหรือ ค่าทำสี เพิ่มขึ้นอีก

ที่สำคัญในการทำรถ ถ้าเป็นช่าง อย่าขี้เกียจ หรือ ช่างเถอะ ไปเป็นไรมั๊ง ไม่ได้ เพราะ ถ้า เกิดมีปัญหา ขึ้นมา แล้วต้องรื้อกันบ่อยๆรถและอะไหล่ เราจะโทรม และชำรุดไม่สวยงามได้  ถ้าเป็นตัวเราเอง ให้ใจเย็นๆ อย่าขี้เกียจเช่นกัน อย่างเวลา ใส่ น๊อต ผิดตัว หรือ สลับที่ อย่าขี้เกียจ แกะออกมาใหม่  ให้ ขยันเข้าไว้ เพราะ รถเก่า นั้น สำคัญในทุกรายละเอียด ไม่ใช่ แค่สวยผิวเผิน

วันนี้ ก้อได้ บทความนี้ ไป อาจจะเป็นประโยชน์ ไม่มาก ก้อไม่น้อย สำหรับเพื่อนๆ ที่รักรถ ทุกท่านครับ


ตั้ม - Motor Classic Shops

2537-2554 วิถีทาง แนวทาง มุมมอง ที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา

      วันนี้ ครึ๊มๆ อยากเขียนบทความสักเรื่อง นั่งนึกอยู่นานเหมือนกัน ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีก้อนึกไม่ออกสักที เอาเป็นว่า อยากจะเล่า มุมมอง ที่ผ่านมา เกี่ยวกับรถและอะไหล่ จาก อดีตถึงปัจจุบันที่ได้เห็นมาละกัน




      นับจากวันที่ เริ่มต้น ได้มีโอกาสรู้จัก กับมอเตอร์ไซค์ หน้าตาแปลกๆ ทรงแปลกๆในวันนั้น จนมาถึง วันนี้ มันไม่ใช่แค่รู้จักแล้ว แต่มันกลับกลายเป็น ความรัก ความผูกพัน เป็นเหมือนเพื่อน ที่ตัด กันไม่ขาด และขาดกันไม่ได้ไปซะแล้ว ครั้งนึง ที่ผมเริ่มต้น เข้ามา ชอบ เข้ามาเล่นรถ เก่า ผมเคยชอบที่ว่ามันแปลก มันสวยไม่เหมือนใครดี  ผมได้มีโอกาส ขี่ เจอ เป็นเจ้าของ ในรถหลายๆรุ่น หลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะ เวสป้า แลม หยดน้ำ หัวไม่เลี้ยว BMW อื่นๆ มากมายหลายรุ่น รวมไปถึงรถเก๋ง รุ่นเก่าๆ และมีประสบการ์ณ กับพวกมัน มาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ในบทความนี้ ผมขอ เล่าถึง รถที่เป็นญี่ปุ่น อย่างเดียวพอละกันครับ (จะได้ตรงกับคอนเซ็ปส์ ร้านของเรา ) 

ครั้งแรกๆ ที่ผมมีโอกาสได้เป็น เจ้าของรถรุ่นเก่าๆคันนึง ผมมีความคิดแค่ว่า จะทำยังงัยให้มัน ใช้งานได้ดี ไม่เสียบ่อย จะหาช่างดีๆที่ไหน ดีน๊า แค่นั้นจริงๆ  เพราะ ทุกๆวัน ที่ ได้ขี่ มัน มันจะต้อง พาผม ไปตายข้างทางตลอดๆ วันๆนึงหลายรอบมาก พูดง่ายๆ เข็นจนชิน  เข็นจน คนรอบข้าง ไม่กล้าไปไหนมาไหนด้วย เลย

เรื่องอะไหล่ แท้ อะไหล่ เดิม ในระยะแรกๆ บอกตรงๆ ผมไม่สนเลย ด้วยซ้ำ ขอแค่รถมันดี ไม่เสีย ให้ใส่อะไรก้อยอมทั้งนั้น ช่างที่ทำบอกให้เอาอะไรมาใส่ เชื่อหมด ขนาดเบาะ ผมยังเอา เบาะเวสป้ามาใส่เลย ไฟเลี้ยวไฟท้าย และสวิทช์ แฮนด์ สวิทช์กุญแจ ไม่ต้องพูดถึง อะไรถูก อะไรหาง่าย และแปลง ลงง่าย จับมาใส่หมด ด้วยความที่เรา ยังไม่รู้ ไม่มีความรู้ และในสมัยนั้น คนเล่นรถ ไม่เยอะมาก การจะหาข้อมูลหรือ เจอคนแนะนำไปในแนวทางที่ถูกต้อง แทบไม่ต้องหา



      จึงอยากจะฝากบอก เพื่อนๆที่เล่นรถกันในทุกวันนี้ ว่า ในเมื่อคุณมี แนวทาง มีคนรู้จริงเยอะ มีข้อมูลที่สามารถหาได้เอง ใน อินเทอร์เนต ว่า รถแท้ๆ เดิมๆ หน้าตามันเป็นยังงัย อะไหล่แต่ละตัว หน้าตาอย่างไร ราคาประมาณเท่าไหร่ แล้วทำไม คุณยังไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ กลับ มองข้ามมันไป แล้ว ไปทำรถคุณให้มันไปผิดทาง ผิดรุ่น

อย่างว่า หล่ะ ในสมัยก่อนนั้น การจะหาอะไหล่ แต่ละชิ้นมันไม่ได้ง่ายเลย จะหาสักชิ้น ต้องวิ่งกันข้ามเมือง ข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว และ วิ่งไปแล้ว ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่า จะเจอ จะมี จะได้ซื้อหรือป่าว และถ้าเจอแล้ว มีแล้ว คนขาย จะยอมขายให้มั๊ย เป็นเรื่องที่ต้องไปลุ้นกันดาบหน้าจริงๆเลย เรื่องของราคา แทบไม่ต้องพูดถึง แพงไม่กลัว แต่ กลัวไม่มี และกลัวไม่ขายด้วย เรื่องต่อราคาแทบไม่ต้องคิด แค่คนขาย ยอมขายให้ก้อบุญโขแล้ว



แต่ ถ้าเทียบกับสมัยนี้ หรอ อยากได้อะไหล่ ชิ้นไหนสักชิ้นนึง เปิดคอม เปิดเวป ที่มีคนมาลงขาย ต่างๆ ดูร้านนั้น ร้านนี้ เช็คราคากัน ไป ร้านนี้ถูกกว่า ร้านมีแพงกว่า ร้านโน้น เก่าหน่อยแต่ถูก โทรไปต่อร้านนั้น ร้านนี้ ร้านไหน ให้ถูกค่อยซื้อ ร้านไหน พูดจา ไม่ถูกใจโก๋ ก้อไม่ซื้อ เวปไทย หาไม่เจอ ไม่มี ก้อเข้าไปเปิดเวปนอก จะอีเบย์ จะ ยะฮู เจแปน หรืออื่นๆ เพียบ พูดง่าย ๆ มันมี ช่องทางในการหาอะไหล่ แบบสบายๆ โดยไม่ต้องไปตากแดด ตัวดำแบบสมัยก่อนแล้ว นักเล่นส่วนใหญ่ในสมัยนี้ จึงให้ ความสำคัญ กับผู้ขายน้อยลง และ ให้ ความรักและผูกพันกับรถและอะไหล่ น้อยลง เพราะมันหาได้ง่าย อยากจะซื้อ จะขาย ไม่ยากเลย เบื่อ ก้อขายทิ้งหาใหม่

เปรียบกับเมื่อก่อน ผมหาบังโซ่หมูมาได้ คู่นึง ล่าง บน อยากจะบอกว่า คืนนั้น นอนกอดแนบกายไม่ห่าง ถึงขนาดตื่นเต้น จนนอนไม่หลับเลย อยากให้เช้าเร็วๆ จะรีบเอาไปใส่รถ ดีใจ จะได้เห็นรถตัวเองมีบังโซ่ และ เวลา ได้อะไหล่ อะไร มาสักชิ้น ความรู้สึก มัน อิ่มเอิบ บอกไม่ถูก มันไม่ใช่แค่ มีเงิน โอนเงิน แล้วได้ แต่ มันเป็นผล จากความพยายาม เสาะแสวงหา อย่างเหน็ดเหนื่อยกันเลยทีเดียว ให้ได้มาซึ่งอะไหล่ ที่เรา ต้องการ ผิดกับสมัยนี้ ลิบลับ เพราะ แค่ สมัยนี้ โทรไปซื้อง่ายๆ ไม่เท่าไหร่ ยังต่อราคา ซะจน คนขายใจหายกันเลยทีเดียว ต่อเรา ยังไม่เอาด้วยนะ เพราะไปเช็คราคาที่อื่นต่อ แล้วไปซื้อที่อื่นก้อมี

ความรัก ความผูกพัน ของนักเล่น สมัยนี้ จึงอาจจะดูน้อยลงไปกว่า นักเล่น รถ ในก่อน มากมายๆ ปากก้อบอกว่า รักรถๆ แต่ สิ่งที่คุณทำให้เรา เอาอะไหล่ อื่นๆมาแปลงใส่ให้รถ เค๊าเรียกว่า รักรถไม่ถูกทาง และยังไม่เข้าใจ ถึงความรัก ของเจ้าของ ที่มีให้รถที่้เรารัก ดีพอ




     บางคนบอกว่า ก้อผมชอบ ของผม รถก้อรถผม ผมจะ แปลง C100 มาใส่เครื่องเวฟ มาตีหน้ากาก ตีบังโคลน ตีท้ายแล้วชุบโครเมี่ยม ให้แว่ปๆ มันผิดตรงไหน ผมจะเอา CG JX มาแปลง ทุกอย่าง ยืดตะเกียบ เปลี่ยนโช๊คหน้าหลัง ตีถังน้ำมัน วางเครื่อง ใหม่ แล้วมันผิดตรงไหน สิ่งเหล่านี้ ที่ทำ ผมไม่ได้ว่า ไม่ได้บอกว่า มันผิด เลย แค่ มีความคิดว่าว่า คุณชอบอะไร ก้อทำไป เป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ อยากให้นึกไว้บ้างว่า บางที " ความชอบ กับความเหมาะสม มันก้อไปด้วยกันไม่ได้ " คุณบอกว่าคุณชอบ แนวคาเฟ่ โมตาด หรือ แทร็กเกอร์ แล้ว ทำไม คุณไม่ไปหา รถ ที่ มันเป็นทำมา เป็นแนวนั้นๆเลยหล่ะ แต่อย่างว่าครับ ความชอบของใครของมัน มีหลายสิ่งที่ผมชอบ แต่ผมว่ามันไม่เหมาะสม กับผม ผมก้อจำเป็นต้อง ตัดมันทิ้งไป  เพราะ เราคิดว่า ต้องเลือกความเหมาะสม เป็นที่ตั้งมากกว่าความชอบของตัวเองเป็นหลัก


ส่วนตัวผมอาจจะชอบรถ สไตล์ ชอปเปอร์ อย่าง ฮาเลย์ สตรีท ไอ้ครั้น ผม จะเอารถ C95 มาตีตัวถัง ใส่แฮนด์ให้กว้างๆ แล้วบอกว่าผมชอบ ใครจะทำไม ก้อคงจะมีคนบอก ผมว่า ไม่ทำไมหรอก รถที่คุณทำหน่ะสวยดี แปลกดี เท่ห์ดี แต่ ในใจลึกๆ เค๊าคงอยากจะบอกว่า มึงชอบแล้วทำไม มึงไม่ไปซื้อ รถชอปเปอร์ ไปเลยวะ  นั่นแหละ คือ ความชอบ กับความเหมาะสม


      อีกเรื่อง ที่ ได้ผ่านพบ เห็นมาจาก อดีต ถึงปัจจุบัน คือ การวางเครื่อง เปลี่ยนเครื่อง ให้กับ รถ รุ่นเก่าๆ แล้ว อ้างว่า ก้อ มันจำเป็นต้องวิ่งยาวๆ ต้องใช้ทำงานวิ่งไกลๆ หรือบางที ต้องออกทริปบ่อยๆ เลยต้องเปลี่ยน เครื่อง เอารุ่นใหม่ๆมาใส่แทน ผมเอง งง มากๆเลย ว่า มันเป็นความคิดที่ออกมาจากคนเล่นรถ ที่เรียกว่า คนรักรถเก่า หรือ คนรักรถ ได้ยังงัย เหตุผล อื่นๆ คงไม่ต้อง อธิบายกันมาก มันเป็นเหมือนข้ออ้าง ข้อแก้ตัว เพื่อให้ตัวเองดูดี มากกว่า แต่สำหรับ ผม  ผมจะเรียกคนประเภทแบบนี้ ว่า " มักง่าย "
ครับ เพราะ  ถ้าคุณ จะใช้งาน จริงๆ ควรหารถ ที่เอาไว้ใช้งานโดยเฉพาะ หรือ ไอ้เครื่องที่คุณเอามาใส่ และถอดมาจากรถรุ่นใหม่ๆ คุณก้อเอามันมาใช้สิครับ เพราะ รถรุ่นเก่าๆ ไม่ว่า จะเป็น อายุ การใช้งาน หรือ สมรรถนะ ต่างๆ ของรถรุ่นเก่าๆ มัน ไม่ได้เหมาะที่จะเอามาใช้งาน แบบจริงๆจังๆแล้ว เค๊าเหนื่อยมามากแล้ว เค๊าต้องการพัก ถึงเวลาแล้ว ที่เรา คนจะ ถนอม และใช้งานเค๊าแบบพอเหมาะ อยากจะใช้งานจริงๆ ต้องมีรถรุ่นใหม่ๆอื่นๆใช้งาน

ส่วนพวกที่บอกว่า ต้องเอาไปออกทริป ผมแค่อยากถามว่า ปากคุณบอกว่า คุณขี่ รถ รุ่นนั้นๆ แต่ เครื่อง และหัวใจ มันไม่ใช่แล้ว อย่างเช่น C200 คุณใส่เครื่อง เวฟ125 คาร์บู เวฟ ล้อซี่ สวิงอาร์มกลม ตะเกียบหน้า แบบ กระบอก แล้วคุณเที่ยวบอกกับคนอื่นๆ ว่าคุณ ขี่ C200 รถคุณเป็นC200  อย่างนั้นหรอครับ น่าอาย อย่างแรง  เพราะว่า คุณรู้มั๊ย ว่า รถรุ่นเก่าๆ มันมี จุดเด่น และ เสน่ห์ของมัน อยู่ในตัว อย่าง เจ้า C200  เครื่อง ต้องก้านกระทุ้ง โช๊คหน้า ช่วงหน้า ต้อง ขาไก่ นี่คือจุดหลักและเสน่ห์ ของมัน แต่ สิ่งที่คุณทำอยู่ มันไม่มีเสน่ห์อะไรเลยสักนิด ผมไม่ได้สงสารอะไรคนที่ทำรถแบบนี้อยู่แล้ว แต่ ผมสงสารรถ ที่มันโชคร้ายไปอยู่ในมือคุณ ต่างหาก

ผ่านมา หลายช่วงเวลา ผ่านคนเล่น มาหลายแบบ ต่างก้อมีรูปแบบ ที่แตกต่างออกไปในแต่ละช่วงเวลา ยังมี อะไร ที่ผ่านมา อีกมากมาย แล้วจะมาเล่าต่อ ในตอนต่อไป ขอบคุณที่ ติดตามอ่านจนครบ ครับ



ตั้ม - Motor Classic Shops